30 พฤศจิกายน 2553

โครงการนัดพบตลาดงาน


เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นักศึกษาและประชาชนในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าร่วมงานโครงการนัดพบตลาดงานที่ศาลาพระราชทานปริญญาบัตร(ศาลาเดิม) ซึ่งงานครั้งนี้จัดขึ้นโดยมหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกับ สำนักงานจัดหางานจังหวัดขอนแก่น

 

โดยได้รับเกียรติจาก นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานการเปิดงาน

 

งานครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อ ให้นักศึกษาและประชาชนในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้รับความสะดวกในการสมัครงาน  และประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปสมัครงานตามแหล่งงานต่างๆ อีกทั้งให้นายจ้างหน่วยงานเอกชนได้พบผู้สมัครโดยตรง

 

ในงานมีหน่วยงานเอกชนเข้าร่วม 99 หน่วยงาน และเปิดคูหา 107 คูหา เพื่อรับสมัครตำแหน่งงานว่าง 1,239 ตำแหน่ง 22,317 อัตรา

 

ด้านปัญหาคนว่างงานและอัตรางานว่างที่มีมากขึ้นในปัจจุบัน นายเรืองยศ ตีวกุล จัดหางานจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่ามีสาเหตุจาก  1.บัณฑิตที่เรียนจบใหม่ต้องการมีธุรกิจของตนเอง จึงนิยมบุกเบิกธุรกิจใหม่ และไม่ชอบการเป็นลูกจ้างพนักงานเหมือนแต่ก่อน  2.ตำแหน่งงานว่าง ไม่เหมาะสมกับความสามารถตน หรือไม่ชอบงาน  3.ประชาชนนิยมไปทำงานต่างประเทศมากขึ้น 

 

ซึ่งจัดหางานจังหวัดขอนแก่น ยืนยันว่า ปัญหาเหล่านี้ ไม่เป็นปัญหาในการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ เพราะไม่ว่าจะทำงานอะไร ทุกคนต้องเสียภาษี เพื่อมาพัฒนาประเทศ  อีกทั้งคนไทยที่ทำงานต่างประเทศ เงินที่ได้จากการทำงานก็ต้องส่งเสียการเรียนให้ลูกหลาน และเกิดการหมุนเวียนเงินในประเทศเหมือนเดิม


การประกวดผ้าไหมในงานเทศกาลไหม


งานเทศกาลไหมประเพณีผูกเสี่ยว และงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น ทุกปีมีไฮไลท์คือ การประกวดผ้าไหม ซึ่งจัดขึ้นเพื่ออนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นให้คงอยู่  และเป็นการสนับสนุนภูมิปัญญาท้องถิ่นจังหวัด

 

ซึ่งการประกวดผ้าไหมปีนี้ คณะกรรมการดำเนินงานการประกวดผ้าไหม ได้พิจารณาตัดสินผ้าไหมที่ส่งเข้าประกวดทั้งหมด 124 ผืน ในช่วงเช้าวันที่ 30 พฤศจิกายน 2553 ที่อาคารวิทยบริการ วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น  และจะจัดแสดงผ้าไหมที่ได้รับรางวัลและที่ส่งเข้าประกวด ที่ศาลาประชาคม จังหวัดขอนแก่น ในช่วงบ่าย

 

ผ้าไหมที่ส่งเข้าประกวด มาจากร้านค้าผ้าไหมและชาวบ้านในอำเภอศรีบุญเรือง แวงน้อย แวงใหญ่ หนองสองห้อง และชนบท  ซึ่งแบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1.ผ้าไหมมัดหมี่ แบบ 2 ตะกรอ  2.ผ้าไหมมัดหมี่ แบบ 3 ตะกรอ  3.ผ้าไหมมัดหมี่ข้อ(หมี่ขั้น)  และ4.ผ้าไหมลายสร้างสรรค์ 

 

โดยคณะกรรมการตัดสินพิจารณาจาก เนื้อผ้า สีผ้า ลายผ้า ความยาวผ้า และความกว้างผ้า  ซึ่งผู้ชนะเลิศและรองชนะเลิศจากการประกวดจะได้รับโล่รางวัล

 

ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น  กล่าวถึงประโยชน์การจัดประกวดงานไหมว่า เป็นการกระตุ้นและส่งเสริมภูมิปัญญาผ้าไหมท้องถิ่น ซึ่งผ้าไหมจังหวัดขอนแก่นขึ้นชื่อเรื่องลายผ้าไหมสวย ทำให้ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติและประชาชนในประเทศ


29 พฤศจิกายน 2553

พิธีปล่อยขบวนตรวจสอบเครื่องวัดความชื้นข้าว


เกษตรกร ผู้ประกอบการรับซื้อข้าว และโรงสี ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 270 คน เข้าร่วมการอบรม "การตรวจสอบให้คำรับรองเครื่องวัดความชื้นข้าว" ที่กรมการค้าภายในจัดขึ้น ที่โรงแรมขอนแก่นโฮเต็ล จังหวัดขอนแก่น เพื่อให้ความรู้กับเกษตรกร ผู้ประกอบการรับซื้อข้าว เกี่ยวกับวิธีการใช้เครื่องวัดความชื้นข้าวที่ถูกต้อง

 

โดยได้รับเกียรติจาก นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดการอบรม

 

ปัจจุบันการซื้อขายข้าวเปลือกได้คิดคำนวณราคา โดยการชั่งน้ำหนักและค่าเปอร์เซ็นต์ความชื้นของข้าวเปลือก ทำให้ความชื้นเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญต่อราคาของข้าวเปลือก  หากมีความชื้นสูงราคาซื้อขายจะลดลงไปตามสัดส่วน และจะมีผลต่อน้ำหนักของข้าวเปลือก และมีผลต่อคุณภาพของข้าวเปลือกในการเก็บรักษา

 

ดังนั้น เพื่อให้การวัดความชื้นข้าวเปลือกในการซื้อขายระหว่างเกษตรกร และสถานรับซื้อข้าวมีมาตรฐานและความถูกต้องเที่ยงตรง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จึงมอบนโยบายให้กรมการค้าภายใน ดูแลเกษตรกรไทยไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ จากปัญหาความชื้นข้าว และเน้นย้ำเกษตรกร ผู้ประกอบการรับซื้อข้าว เรียนรู้"การตรวจสอบให้คำรับรองเครื่องวัดความชื้นข้าว" ให้ดี ซึ่งจะช่วยให้ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ

 

จากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ทำพิธีปล่อยขบวนชุดเฉพาะกิจออกตรวจสอบเครื่องวัดความชื้นข้าวทั่วภาคอีสาน 7 ชุด เพื่อช่วยเหลือ เกษตรกร ผู้ประกอบการรับซื้อข้าว ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

CSR for SMEs ทำดีมีกำไรใครๆก็รัก


เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการทั่วประเทศไทย เข้าร่วมประชุมสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ในหัวข้อ"CSR for SMEs ทำดีมีกำไรใครๆก็รัก" ที่ห้องมงกุฏเพชร โรงแรมโฆษะ จังหวัดขอนแก่น

 

งานนี้ได้รับเกียรติจาก นายดุสิต นนทะนาคร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เป็นประธานพิธีเปิดสัมมนา

 

การสัมมนาครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อ ให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วมการสัมมนา หัวข้อ "CSR for SMEs ทำดีมีกำไรใครๆก็รัก" ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน และเป็นกลไกการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ

 

CSR คือ การสร้างความรับผิดชอบขององค์กร ต่อธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งธุรกิจปัจจุบันจำเป็นต้องมี CSR เพราะ CSR ของ SMEs จะส่งผลให้ธุรกิจพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ ควบคู่กับพัฒนาท้องถิ่น และส่งผลให้กลไกทางการตลาดของประเทศไทยเข้มแข็งขึ้น

 

นอกจากนี้ หากจะทำให้องค์กรธุรกิจเข้มแข็ง ต้องน้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มาใช้ดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจเข้มแข็งและสามารถต้านปัญหาเศรษฐกิจโลกที่แปรปรวนได้

บวงสรวง งานไหม


เมื่อวันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย และ นายธนวัฒน์ พลอยโสภณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานในพิธีพิธีบวงสรวงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์  ที่ศาลเทพารักษ์ โรงช้าง ด้านทิศตะวันออกศาลากลางจังหวัดขอนแก่นหลังใหม่  และที่ลานพระบรมรูป รัชกาลที่ 5 พระธาตุศิโรดม และศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนที่จังหวัดขอนแก่นจะได้จัดงานเทศกาลไหม ประเพณีผูกเสี่ยว และงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น ประจำปี 2553 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2553

 

ส่วนพิธีเปิดงาน  มีขึ้นในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2553 เวลา 17.00 น.โดยรับเกียรติจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมาเป็นประธานในพิธีเปิด งานเทศกาลไหมประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาดในปีนี้ เน้นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  84 พรรษา ซึ่งกิจกรรมในงาน มีงานประเพณีผูกเสี่ยว เป็นเสี่ยวเอก 8 คู่  เสี่ยว เกียรติยศ 84 คู่เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และการจัดคุ้มศิลปวัฒนธรรม การแสดงสินค้าผลิตภัณฑ์ราชทัณฑ์  งานประกวดผ้าไหม ผลิตภัณฑ์ไหม  การแสดงนิทรรศการและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น   งานเดินแฟชั่นโชว์ผ้าไหมและงานเดินแฟชั่นโชว์กิตติมศักดิ์ ณ ศาลาไหมทุกวัน  การ ประกวดนางงามไหมขอนแก่น กิจกรรมจุดเทียนชัยถวายพระพร เนื่องในวันที่ 5 ธันวาคม วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  การออกร้านธาราการชาด การออกสลากกาชาด การแข่งขันกีฬา ซึ่งรูปแบบของงานยังเน้นงานปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์