20 กุมภาพันธ์ 2555

เหตุพาดพิงก่อการร้าย ส่งผลเสียภาพลักษณ์ขก.


ประธานหอการค้าจังหวัดขอนแก่น กล่าวถึงกรณีที่สื่อต่างๆได้ พาดพิงถึงการก่อการร้ายของชาวต่างชาติฯ ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่เสี่ยง สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ว่า ขณะนี้สถานการณ์ในจังหวัดขอนแก่นยังคงเป็นไปอย่างปกติดี  ทั้งนี้จังหวัดขอนแก่นจะสร้างภาพลักษณ์ที่ชัดเจน  ถึงกฎระเบียบ รวมถึงมาตราการความปลอดภัยด้วยการจัดงานกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 40 และกีฬาคนพิการ ครั้งที่ 30 ในต้นเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ 

สำหรับการพาดพิงถึงพื้นที่เสี่ยงในต่างจังหวัด โดยเฉพาะกับจังหวัดขอนแก่นนั้น ทำให้ภาพลักษณ์จังหวัดขอนแก่นเกิดความเสียหาย เหตุที่ถูกระบุเป็นพื้นที่เสี่ยง อาจส่งผลต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยเองและชาวต่างชาติ
      
 อย่างไรก็ตาม ในแง่ของการให้ข้อมูลข่าวสารของรัฐบาล อยากให้มีการรวมศูนย์การเผยแพร่ข่าวสาร ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมกับมีหน่วยงานที่สามารถกลั่นกรองข้อมูลข่าวสารที่เชื่อถือได้ ก่อนที่จะมีการเผยแพร่ออกสู่สาธารณะ

คงราคาขายข้าวราดแกง 30บ.


ท่ามกลางการปรับเปลี่ยนแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล เพื่อหวังให้ประชาชนได้กินดีอยู่ดี  ล่าสุดออกนโยบายช่วยคนหาเช้ากินค่ำ ประกาศใช้ราคาแนะนำอาหารสำเร็จรูปจานเดียว ไม่เกินจานละ 25-30 บาท  ทีมข่าวโฮมทีวีจึงลงพื้นที่เพื่อสำรวจความคิดเห็นบรรดาพ่อค้าแม่ค้า ที่ตลาดบางลำภู

พบว่าพ่อค้าร้านแม่จวน อาหารไทย  ขายข้าวราดแกงที่ตลาดบางลำภูมานานกว่า 5 ปีแล้ว  ได้แสดงความคิดเห็นถึงนโยบายของรัฐบาลว่า  ทางร้านไม่ได้รับผลกระทบจากนโยบายนี้  เพราะจำหน่ายข้าวราดแกงในราคาจานละ 30 บาทอยู่แล้ว เว้นแต่หากลูกค้าสั่งพิเศษต้องจ่ายเงินเพิ่มเป็นจานละ 40 บาท  

ทั้งนี้สิ่งที่พ่อค้ายังมีความกังวลใจกับรายจ่ายวัตถุดิบประกอบอาหารที่ต้องมาจ่ายตลาดทุกเช้า  เนื่องจากราคาข้าวของเพิ่มขึ้นมาก  ทำให้บางร้านที่อยู่ในละแวกเดียวกันตัดสินใจขึ้นราคาอาหาร

แต่อย่างไรก็ตามจากการที่ทีมข่าวโฮมทีวีลงพื้นที่ครั้งนี้ สังเกตได้ว่าตลอดทั้งวันยังคงมีลูกค้าแน่นขนัดร้าน ซึ่งเมื่อได้สอบถามผู้บริโภคส่วนใหญ่บอกว่า  ราคาข้าวราดแกงเหมาะสมกับคุณภาพแล้ว  แต่รัฐควรแก้ที่ราคาต้นทุนสินค้า  เนื่องจากทั้งแม่บ้านที่ต้องทำอาหารที่บ้านกับบรรดาพ่อค้าแม่ค้าจำหน่ายข้าวราดแกง  ต่างได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง

ตลาดบางลำพู เตรียมต้อนรับกีฬาแห่งชาติ


หลังจากที่ส่วนราชการจังหวัดขอนแก่นได้รณรงค์กระตุ้นให้ทุกภาคส่วน ร่วมทำความสะอาดเมืองขอนแก่น  เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวและนักกีฬาที่ร่วมแข่งขันกีฬาแห่งชาติ  ขอนแก่นเกมส์ ครั้งที่ 40 ระหว่างวันที่ 3 – 13 มีนาคม 2555 และกีฬาคนพิการแห่งชาติ  ครั้งที่ 30 ระหว่างวันที่ 21- 25 มีนาคม 2555

ล่าสุดนายภาสภาดร เนียมประดิษฐ์  ผู้จัดการทั่วไป ตลาดบางลำภูขอนแก่น เปิดเผยข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า  ตลาดบางลำภูได้ขานรับการดำเนินงานของส่วนราชการจังหวัด โดยได้ประชุมกับคณะกรรมการ เพื่อเตรียมกำหนดวันทำความสะอาดตลาดครั้งใหญ่  ก่อนการจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ  เนื่องจากการทำความสะอาดตลาด  จะทำให้ตลาดสะอาด  ดึงดูดให้ประชาชนมาเลือกซื้อสินค้าและน่ามาจับจ่ายซื้อของมากขึ้น  ส่งผลให้มีเงินหมุนเวียนในตลาดมากกว่าเดิม 

ทั้งนี้ด้านกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจตลาด ในช่วงขอนแก่นเกมส์ นายภาสภาดร เนียมประดิษฐ์  เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่า  ทางคณะกรรมการลงมติจะจัดกิจกรรมในตลาด  แต่ยังไม่มีข้อสรุปจะเป็นกิจกรรมใด  ซึ่งจะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบอีกครั้ง

นายกสมาคมสื่อมวลชนขอนแก่น คนใหม่


นายสุวรรณ ไตรมาลัย   สามารถเอาชนะใจสมาชิกสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น  ไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น คนใหม่  แทนนายชาติชาย ชาธรรมมา   ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 5 มีนาคม 2555  ด้วยนโยบายหลักๆ   2 ประการ คือ การมุ่งส่งเสริมให้เกิดความสามัคคีในหมู่สื่อมวลชน และการส่งเสริมสวัสดิการต่างๆแก่สมาชิก

สำหรับปีนี้ นับเป็นการทำหน้าที่ปีสุดท้ายของคณะกรรการบริหารสมาคมฯ โดยการนำของนายชาติชาย ชาธรรมมา   ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 5 มีนาคม 2555   ที่ประชุมจึงได้มีการเลือกตั้งนายกสมาคมสื่อมวลชนคนใหม่ วาระ 5 มีนาคม 2555 -  5 มีนาคม 2557   

นายสุวรรณ ไตรมาลัย เกิดเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 1944 ปัจจุบันเป็นสื่อมวลชนและเป็นที่ปรึกษาหนังสือพิมพ์สยามรัฐ นอกจากนี้ยังเป็นประธานชมรมสื่อสร้างสรรค์ภาคอีสานอีกด้วย หากจะนับจำนวนนายกสมาคมสื่อฯ นายสุวรรณ ไตรมาลัย นับเป็นนายกสมาคมสื่อฯคนที่ 6 ซึ่งจะมีวาระนับตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2555 ถึง 5 มีนาคม 2557   วาระ 2 ปี   // ทีมข่าวโฮมทีวี  ขอแสดงความยินดีกับนายสุวรรณ ไตรมาลัยด้วยนะคะ

11 กุมภาพันธ์ 2555

การเดินการกุศลเพื่อสุขภาพ


ครู นักเรียน  ทหาร เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานภาครัฐ  สมาชิกสมาคมไลออนด์ และประชาชนทั่วไป  ร่วมเดินการกุศลเพื่อสุขภาพ  ภายใต้โครงการจัดการเดินการกุศลเพื่อสุขภาพ  ครั้งที่ 24  โดยสโมสรไลออนส์นครขอนแก่น  เพื่อหาทุนสมทบ ผ่าตัดต้อกระจกและสมทบทุนการศึกษานักเรียนผู้ด้อยโอกาส  ต้านโรคเอดส์ ต้านยาเสพติดและสาธารณกุศล  ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น 

โดยมีนายธนวัฒน์  พลอยโสภณ  รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น  เป็นประธานตัดริบบิ้นปล่อยขบวนการเดินการกุศล เพื่อสุขภาพ  พร้อมทั้งกล่าวว่าสโมสรไลออนส์นครขอนแก่นได้จัดกิจกรรมดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 10 ปีมาแล้ว  โดยได้นำเงินรายได้จากการจัดกิจกรรม  ไปช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ยากไร้ประสบทุกข์ภัย  โดยเฉพาะท้องถิ่น  อาทิ โครงการพิทักษ์สายตา  โรคเบาหวาน  ต้านโรคเอดส์  ต่อต้านยาเสพติด และสาธารณกุศล

กิจกรรมการเดินการกุศลเพื่อสุขภาพ  นับว่าเป็นการแสดงออกถึงความสามัคคี  พร้อมเพรียงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการประกอบกิจกรรมสาธารณสุขประโยชน์ทั้งผู้จัดและผู้ที่ได้ร่วมกิจกรรม

การศึกษาเอกชนเดินเทิดพระเกียรติในหลวง


กิจกรรมเดินเทิดพระเกียรติ  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  มีขึ้นที่ศาลาผูกเสี่ยว  ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น  เพื่อแสดงออกถึงความร่วมมือร่วมใจ  ความสามัคคีของสถานศึกษาเอกชน  โดยพิธีเปิดได้รับเกียรติจากนายธนวัฒน์  พลอยโสภณ  รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น  เป็นประธานในพิธี

หลังจากนั้นได้อ่านสาร วันการศึกษาเอกชนมีใจความที่ว่า การศึกษาก่อให้เกิดความรู้ อยากให้นักเรียนตั้งใจศึกษาเล่าเรียนเพื่อในอนาคตจะได้เติบโตเป็นกำลังของชาติได้ และคณะครูนักเรียนพร้อมผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงสดุดีมหาราชาก่อนเดินเทิดพระเกียรติในหลวงมาตามถนนสายหลักในเขตเทศบาลนครขอนแก่นสิ้นสุดที่ลานข้าวเหนียวห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่าขอนแก่น

โดยตลอดระยะทางที่เดินเด็กนักเรียนโรงเรียนเอกชนทั้ง 40 โรงเรียน จะถือป้ายที่มีใจความรักในสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อในหลวงและเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษาในวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา 

สำหรับวันการศึกษาเอกชนจังหวัดขอนแก่นจะตรงกับวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ของทุกปี  และจะจัดกิจกรรมขึ้นเพื่อเป็นการรวมตัวนักเรียนเอกชนในจังหวัดขอนแก่นให้ได้มาทำกิจกรรมร่วมกันในทางที่สร้างสรรค์  

มท.2 เน้นย้ำ ยกระดับมาตราฐานอปท.


นายชูชาติ หาญสวัสดิ์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่มายังจังหวัดขอนแก่น  เมื่อเช้าวันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์   2555 เพื่อมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติงานให้ข้าราชการกรมที่ดิน // ข้าราชการส่วนเสริมการปกครองท้องถิ่น และผู้นำ อปท. ที่ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษกมหาวิทยาลัยขอนแก่น

โดยนายชูชาติ  ได้กล่าวเน้นย้ำให้หน่วยงานต่างๆ นำนโยบายของรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย และกรม ไปปฏิบัติ // โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว ทำงานในเชิงรุก ในการให้บริการประชาชน นอกจากนั้นข้าราชการทุกคนต้องปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ในการไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด

ในส่วนของกรมที่ดิน  มีนโยบายที่เน้นหนัก คือ การปรับปรุงการบริการที่รวดเร็ว เพื่อให้ประชาชนพึงพอใจ การเร่งรัดการออกโฉนดที่ดิน ตามโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินทั่วประเทศ และการให้ความช่วยเหลือที่ดินทำกินแก่ประชาชน  ซึ่งในส่วนของ อปท. ให้จัดเตรียมแผนงานโครงการต่างๆ ล่วงหน้าเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการรับสนับสนุนงบประมาณ และที่สำคัญ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มุ่งเน้นการยกระดับมาตราฐานคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ให้ดีขึ้น

นอกจากนั้นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังจะพยายามผลักดันงบประมาณ 1 แสน 2 หมื่นล้านลงสู่ อปท.ท้องถิ่นเพื่อพัฒนาคุณภาพความเป็นอยู่ โครงสร้างพื้นฐานให้ประชาชนที่ขาดโอกาสได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียบ

เปิดบ้าน North Park Condo


คุณชาญณรงค์ บุริสตระกูล  กรรมการผู้จัดการบริษัทอีสานพิมานกรุ๊ป จำกัด  และพนักงานในบริษัทในเครือ    เปิดบ้านต้อนรับลูกค้าและสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น  พร้อมเปิดเผยถึงที่มาที่ไปของโครงการ  North Park Condo  คอนโดสไตล์คนเมือง  ซึ่งบริษัทอีสานพิมานกรุ๊ป จำกัด  ทุ่มงบประมาณ 400 กว่าล้านบาท  เพื่อสร้างคอนโดทันสมัยตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมืองที่หลากหลาย  อาทิ นักศึกษา กลุ่มวัยทำงาน  และครอบครัว  คาดว่าจะพร้อมให้ผู้อยู่อาศัยเข้าอยู่ช่วงปลายปี  2556

นอกจากการรับฟังการบอกเล่าข้อมูลของสัมภาษณ์คุณชาญณรงค์  สื่อมวลชนยังได้รับชมวีดีทัศน์ที่ถ่ายทอดการดำเนินการสร้าง North Park Condo  ที่พิมานกรุ๊ปได้เลือกสรรสร้างสิ่งดีให้แก่ลูกค้า 

พร้อมกันนี้คุณชาญณรงค์  เป็นไกด์นำสื่อมวลชนและลูกค้า เดินชมห้องโครงการตัวอย่าง  ภายใต้คอนเซ็ป  Brooklyn Studio  ครบครันด้วยขนาดห้องที่กว้างขวางพร้อมเอร์นิเจอร์อำนวยความสะดวก  ให้ผู้อยู่อาศัยมีความสุขในการใช้ชีวิตท่ามกลางใจเมือง    สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  087-8577722

MOU โครงการกล่องเขียวขอนแก่น


พิธีลงนามความร่วมมือโครงการกล่องเขียวขอนแก่น  กรีน  บล็อก  โดยเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่น  สถาบันที่ปรึกษาพัฒนาท้องถิ่น และบริษัทกรีนบอร์ด (ประเทศไทย)  จำกัด  เพื่อกระชับความร่วมมือและร่วมประชาสัมพันธ์ในจัดเก็บกล่องเครื่องดื่มเปล่า  ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น  และเป็นประโยชน์ต่อส่วนร่วมในการพัฒนาปลูกจิตสำนึกและสร้างวินัยรักษ์สิ่งแวดล้อมท้องถิ่น
.
โดยคณะทำงานเยี่ยมชมโครงการและชมสถานที่จัดเก็บกล่องนม กล่องเครื่องดื่มเปล่า  พร้อมกับขนย้ายกล่องจำนวน 1,650 กิโลกรัม  หรือ 115,500 กล่อง  สู่โรงงานกรีนบอร์ดที่จังหวัดปทุมธานี

สำหรับโครงการกล่องเขียวขอนแก่น กรีน  บล็อก  เป็นโครงการที่รวบรวมกล่องเครื่องดื่มเปล่าทุกรูปแบบและทุกขนาดในเทศบาลนครขอนแก่นและจังหวัดขอนแก่น   โดยเปิดรับซื้อหรือรับบริจาคจากกลุ่มเป้าหมาย  เช่นโรงเรียนอนุบาล  ชุมชน  คนเก็บขยะและผู้สนใจโครงการ  เพื่อนำส่งไปแปรรูป  ลดมลภาวะในท้องถิ่น  ปริมาณขยะในรูปกล่องเครื่องดื่มเปล่าจะถูกกำจัดอย่างถูกวิธีเป็นประโยชน์ในการรักษาสิ่งแวดล้อมและป้าไม้  ช่วยลดภาวการณ์ฝังกลบ  และการย่อยสลายตามธรรมชาติในท้องถิ่นได้อย่างถาวร

เครื่องยนต์น๊อคไฟไหม้รถยนต์


 เกิดเหตุระทึกขวัญขึ้นที่ บริเวณหน้าอาคารชุมสายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ขอนแก่น ซอย 13 ถนนกสิกรทุ่งสร้าง  เมื่อ รถกระบะ มิซูบิชิ สตร้าด้า หมายเลขทะเบียน ณฉ 6705 กรุงเทพมหานคร ได้เกิดเพลิงลุกไหมที่ห้องเครื่อง ส่งผลให้เกิดควันโขม่ง ไปทั่วบริเวณดังกล่าว สร้างความตกใจให้กับชาวบ้านในบริเวณนั้น 

  จากการสอบถามเจ้าของรถ ซึ่งอยู่ในอาการตระลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่นั้น  ว่า ตนได้นำเอกสารเพื่อที่จะมาส่งให้ อาคารชุมสายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ขอนแก่น ชั้น 2  และเมื่อทำธุระเสร็จเรียบร้อย ก็ได้กลับมายังที่รถ และได้สตาร์ทรถ แต่ปรากฏว่ามีเสียงดังแซ๊ด ประมาณ 2 ครั้ง และเห็นควันขึ้นที่กระโปรงรถ จึงรีบออกจากตัวรถ เพราะเกรงว่าจะระเบิด และได้โทรศัพท์แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเพื่อมาสกัดเพลิงไหม้ ซึ่งสาเหตุของเพลิงไหม้รถ ในครั้งนี้คาดว่าจะเกิดจาก ระบบเครื่องยนต์ ขัดข้องทำให้เกิดไฟลุกไหม้ในห้องเครื่องดังกล่าว

03 กุมภาพันธ์ 2555

3 ก.พ.วันทหารผ่านศึก


 ข้าราชการทหารในจังหวัดขอนแก่น พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยงานทุกภาคส่วน     เข้าร่วมพิธีวางพวงมาลา  เนื่องในวันทหารผ่านศึก    ที่หน้าพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ  หน้ากองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23    จังหวัดขอนแก่น  โดยสำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตขอนแก่น ร่วมกับมณฑลทหารบกที่ 23    เพื่อเป็นการแสดงความคารวะต่อดวงวิญญาณของเหล่านักรบผู้กล้า  สดุดีวีรกรรมและเชิดชูเกียรติทหารผ่านศึก   อีกทั้งเพื่อให้ประชาชนได้รำลึกถึงคุณงามความดีของอดีตนักรบของชาติ ผู้ได้เสียสละเลือดเนื้อเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินอันเป็นที่รักยิ่งของเราให้ ประชาชนได้อยู่อาศัยอย่างปกติสุข   

โดยมีพลตรี วีระพงศ์ คงเกษม ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๒๓  และ ดำรงตำแหน่ง หัวหน้าสำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตขอนแก่น เป็นประธานในพิธี  ได้อ่านคำสดุดี  และการยืนไว้อาลัยแด่ทหารหาญที่เสียชีวิตจากการสละชีพเพื่อชาติ

นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงรถถัง รถสายพานลำเลียงพล และซุ้มจำลองฐานปฏิบัติการของกองพลทหารม้าที่ 3 ค่ายเปรมติณสูลานนท์, กรมทหารราบที่ 8 และกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 2 อีกด้วย

และเพื่อระลึกถึงเกียรติภูมิของนักรบกล้าหาญ  จึงได้กำหนดให้ดอกป๊อปปี้เป็นดอกไม้ที่ระลึกสำหรับทหารผ่านศึก   จึงขอเชิญประชาชนร่วมกันซื้อดอกป๊อปปี้ เพื่อช่วยทหารผ่านศึกและครอบครัวทหารผ่านศึกด้วย

ก.ส.สนับสนุนสินเชื่อ 1,000 ล้าน ให้โรงงานแปรรูป พยุงราคาสับปะรด


ก.ส.สนับสนุนสินเชื่อ 1,000 ล้าน ให้โรงงานแปรรูป พยุงราคาสับปะรด

  ธ.ก.ส. สนับสนุนสินเชื่อวงเงิน 1,000 ล้านบาท  เสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการโรงงานแปรรูปเพื่อแก้ปัญหาราคาสับปะรดตกต่ำ โดยตั้งเป้ารับซื้อไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 4 บาท

             นายลักษณ์  วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร(คชก.) ได้มีมติให้ ธ.ก.ส. เข้าร่วมโครงการเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการโรงงานแปรรูปเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาสับปะรด ซึ่ง ธ.ก.ส. พร้อมให้การสนับสนุนสินเชื่อ Packing Credit ในวงเงิน 1,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี ระยะเวลา 3 เดือน ให้กับผู้ประกอบการโรงงานแปรรูปเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนวียนของกิจการและเสริมสภาพคล่องในการรับซื้อสับปะรดส่วนเกินจากเกษตรกร ในการนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์น้ำสับปะรดเข้มข้นไว้รอการจำหน่าย

               สำหรับเงื่อนไขผู้ประกอบการโรงงานแปรรูปสับปะรดที่เข้าร่วมโครงการต้องจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(MOU) ในเรื่องการกำหนดราคารับซื้อสับปะรดขั้นต่ำ ณ หน้าโรงงานในราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 4 บาท กับเกษตรกร สถาบันและภาคราชการ ในช่วงระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2554 ถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2555        โดยผู้ประกอบการจะได้รับชดเชยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี จาก คชก.เป็นระยะเวลา 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่ได้รับสินเชื่อจาก ธ.ก.ส. และสิ้นสุดโครงการในวันที่ 31 พฤษภาคม 2555 ทั้งนี้การดำเนินโครงการดังกล่าวจะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 7.725 ล้านบาท  แบ่งเป็นเงินชดเชยดอกเบี้ย Packing Credit ระยะเวลา 3 เดือน วงเงิน 7.5 ล้านบาท         ค่าบริหารจัดการโครงการของกรมส่งเสริมการเกษตร วงเงิน 0.225 ล้านบาท

นายลักษณ์ กล่าวอีกว่า ในปี 2554 มีผลผลิตสับปะรดออกสู่ตลาดประมาณ 2.59 ล้านตัน เทียบจากปีที่ผ่านมา    มีเพียง 1.47 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 31.47 ทั้งนี้เพราะช่วงที่ผ่านมาเกษตรกรขายสับปะรดได้ในราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 6-7 บาท ทำให้มีการขยายพื้นที่การเพาะปลูก ประกอบกับสภาพอากาศเอื้ออำนวย ส่งผลให้ผลผลิตในภาพรวมเพิ่มขึ้น เช่น ในช่วงเดือนพฤศจิกายน มีผลผลิตออกสู่ตลาดประมาณวันละ 11,000-12,000 ตัน ขณะที่โรงงานแปรรูปมีกำลังการผลิตวันละ 10,000 ตัน ทำให้มีผลผลิตส่วนเกิน ประกอบกับผู้นำเข้าในตลาดต่างประเทศลดปริมาณการสั่งซื้อ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้โรงงานมีสต็อคสินค้ามาก ราคาซื้อขายสับปะรดจึงตกต่ำลงเหลือเพียงประมาณ 2-3 บาทต่อกิโลกรัม   การดำเนินโครงการดังกล่าว นอกจากเป็นการเข้าไปแก้ไขปัญหาราคาสับปะรดตกต่ำแล้ว ยังเป็นการรักษาเสถียรภาพราคาส่งออกผลิตภัณฑ์สับปะรด และเพิ่มอำนาจต่อรองของอุตสาหกรรมสับปะรดไทยในตลาดต่างประเทศด้วย

ธ.ก.ส.กู้ ธปท. 60,000 ล้านบาทช่วยเกษตรกรน้ำท่วม


ธ.ก.ส.กู้ ธปท. 60,000 ล้านบาทช่วยเกษตรกรน้ำท่วม
ธ.ก.ส. ยื่นขอกู้ Soft loan จากแบงก์ชาติ 60,000 ล้านบาท  ดอกเบี้ยร้อยละ 0.01 ระยะเวลา 5 ปี  โดยนำไปปล่อยกู้ต่อเกษตรกรและผู้ประกอบการที่ประสบอุทกภัยในอัตราร้อยละ 3  เพื่อเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ

นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ธ.ก.ส. มีมติเห็นชอบให้กู้เงิน Soft loan จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)  จำนวน 60,000      ล้านบาท   ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.01 ต่อปี ระยะเวลา 5 ปี  เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยสมทบกับเงินทุนของ ธ.ก.ส. อีกร้อยละ 30  เพื่อนำไปปล่อยกู้ให้แก่บุคคลธรรมดา       ไม่เกินรายละ 1 ล้านบาทและผู้ประกอบการไม่เกินรายละ 30 ล้านบาท  ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี

นอกจากนี้ยังเห็นชอบให้ลดหย่อนหลักประกันเงินกู้นอกเหนือจากข้อบังคับของ ธ.ก.ส. คือ  กรณีใช้หลักประกันรับรองรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมกัน หรือใช้บุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปค้ำประกันหนี้เงินกู้  ให้กู้ได้ไม่เกิน  รายละ 100,000 บาท โดยให้แยกวงเงินค้ำประกันตามมาตรการนี้ต่างหากจากวงเงินค้ำประกันปกติของ ธ.ก.ส.   กรณีใช้อสังหาริมทรัพย์จำนองเป็นประกันพร้อมสิ่งปลูกสร้าง  ให้ขยายวงเงินกู้จากหลักเกณฑ์ปกติที่กู้ได้ไม่เกินครึ่งหนึ่งของวงเงินจดทะเบียนจำนอง  เป็นให้กู้ได้ไม่เกินวงเงินจดทะเบียนจำนอง  และกรณีใช้อสังหาริมทรัพย์จำนองเป็นประกันพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่จะเกิดขึ้นจากการใช้สินเชื่อ  ให้กู้ได้เต็มมูลค่าที่ดิน  ส่วนทรัพย์ที่เกิดจากการใช้สินเชื่อให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 80 ของมูลค่าจริงของทรัพย์ที่เกิดจากการใช้สินเชื่อ

นายลักษณ์กล่าวอีกว่า  ลูกค้าที่ขอกู้เงินเพื่อนำไปฟื้นฟูการผลิต  ทั้งในกรณีที่กู้ไปแล้วและกำลังจะกู้ใหม่  จะได้รับสิทธิในการลดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี  เพื่อแบ่งเบาภาระในการฟื้นฟูการประกอบอาชีพ  การสร้างโอกาสในการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มรายได้   ทั้งนี้ผู้กู้จะต้องส่งชำระคืนต้นเงินพร้อมดอกเบี้ยภายในระยะเวลา 5 ปีหรือไม่เกินปี 2561 ตามข้อกำหนดของ ธปท. ซึ่งถ้าเกินกำหนด ธปท.อนุมัติให้คิดดอกเบี้ยในอัตรา MRR   อย่างไรก็ตามเพื่อให้เงินทุนอัตราดอกเบี้ยต่ำดังกล่าว  คลอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า  ธ.ก.ส. จะหารือร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์และ ธปท. ในการปล่อยกู้ให้กับสมาชิกสหกรณ์การเกษตรได้ด้วย

ธ.ก.ส.เตรียมรับจำนำมันสำปะหลัง 10 ล้านตัน


ธ.ก.ส.เตรียมรับจำนำมันสำปะหลัง 10 ล้านตัน
พร้อมปล่อยกู้รวบรวมและพยุงราคายางพาราวงเงิน 15,000 ล้านบาท

                        ธ.ก.ส. เดินเครื่องรับจำนำมันสำปะหลัง เริ่ม ก.พ. พ.ค. 55 ตั้งเป้า 10 ล้านตัน จำกัดปริมาณไม่เกิน 250 ตันต่อราย พร้อมเตรียมปล่อยสินเชื่อเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางพาราวงเงิน 15,000 ล้านบาท 

                นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. พร้อมดำเนินโครงการรับจำนำมันสำปะหลังปี 2554/2555 ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ พฤษภาคม 2555 เพื่อยกระดับราคามันสำปะหลัง โดยรับจำนำหัวมันสดตามเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้งที่ 25 เปอร์เซ็นต์ ในราคากิโลกรัมละ 2.75 บาท และปรับเพิ่มขึ้นเดือนละ 0.05 บาท จนถึงเดือนพฤษภาคม 2555 ราคาจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 2.90 บาท เป้าหมายการรับจำนำ 10 ล้านตัน  

          วิธีดำเนินการจะรับจำนำใบประทวน โดยให้ อคศ. รับสมัครลานมันและโรงแป้งเข้าร่วมโครงการเพื่อใช้เป็นจุดรับฝากหัวมันสดและจ่ายใบประทวนให้เกษตรกร โดยเกษตรกรจะนำใบประทวนดังกล่าวมาจำนำกับ ธ.ก.ส. และ ธ.ก.ส. 
จะจ่ายเงินให้เกษตรกรภายใน 3 วันทำการ  ส่วนลานมันและโรงแป้งที่รับฝากหัวมันสดจะต้องแปรสภาพหัวมันสดเป็น มันเส้นและแป้งมันส่งมอบเข้าคลังกลางตามหลักเกณฑ์และมติของคณะอนุกรรมการกำกับดูแลการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลังปี 2554/55 

                ในส่วนของเกณฑ์การรับจำนำ เกษตรกรจะต้องมีหนังสือรับรองเกษตรกรจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
มีผลผลิตมันสำปะหลังเป็นของตนเอง เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. โดยสามารถจำนำผลผลิตในพื้นที่จังหวัดของตนเท่านั้น ยกเว้นกรณีที่บางจังหวัดมีลานมันหรือโรงแป้งเข้าร่วมโครงการน้อย ไม่เพียงพอต่อการให้บริการให้คณะอนุกรรมการกำกับดูแลระดับจังหวัดเป็นผู้พิจารณากำหนดจุดรับจำนำนอกพื้นที่ 

                ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถไถ่ถอนผลผลิตได้ภายใน 3 เดือน นับถัดจากเดือนที่รับจำนำ โดยไถ่ถอนเป็นมันเส้นและแป้งมันสำปะหลังตามปริมาณซึ่งได้แปรสภาพหัวมันสำปะหลังในอัตราที่กำหนด ซึ่งถ้าราคาตลาด ณ วันที่ไถ่ถอนเท่ากับหรือต่ำกว่าราคาที่จำหน่ายไปแล้ว เกษตรกรไม่ต้องรับผิดชอบ แต่ถ้าราคาตลาดสูงกว่าราคาที่จำหน่ายไปแล้ว เกษตรกรจะได้รับคืนเงินส่วนเกินหลังจากหักดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี ของยอดวงเงินที่จำนำ รวมค่าใช้จ่ายในการแปรสภาพ ค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาและค่าใช้จ่ายอื่นๆ นับตั้งแต่วันรับฝากจนถึงวันที่ไถ่ถอน โดยให้ไถ่ถอนทั้งจำนวนตามที่ระบุไว้ในใบประทวน

                ส่วนโครงการพัฒนาสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ ธ.ก.ส. สนับสนุนสินเชื่อวงเงินรวม 15,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ โดยจัดสรรให้สถาบันเกษตรกรจำนวน 5,000 ล้านบาท และให้องค์การสวนยาง (อ.ส.ย.) จำนวน 10,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 ต่อปี เพื่อใช้ในการรับซื้อยางนำไปแปรรูป และรอขายในราคาที่เหมาะสม  ทั้งนี้  เป้าหมายการดำเนินงานโครงการดังกล่าว นอกจากจะเป็นการรักษาเสถียรภาพราคายางโดยดำเนินการชะลอการจำหน่ายยางออกสู่ตลาดในช่วงที่ราคายางผันผวนแล้ว ยังเป็นการรักษาระดับราคารับซื้อที่เหมาะสมคือที่ระดับราคา 120 บาท ต่อกิโลกรัมอีกด้วย โดยโครงการดังกล่าวมีระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่เดือนมกราคม 2555 – มีนาคม 2556      

ธ.ก.ส. โชว์ผลงาน 3 ไตรมาสจ่ายสินเชื่อ กระตุ้นเศรษฐกิจภาคชนบทเพิ่มกว่า 3.7 แสนล้านบาท


ธ.ก.ส. โชว์ผลงาน 3 ไตรมาสจ่ายสินเชื่อ
กระตุ้นเศรษฐกิจภาคชนบทเพิ่มกว่า 3.7 แสนล้านบาท

       ธ.ก.ส. จ่ายสินเชื่อ 3 ไตรมาสแรกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคการเกษตร ไปแล้วกว่า 3.7  แสนล้านบาท ส่วนเงินฝากเพิ่มขึ้น 6.3 หมื่นล้าน ขณะที่ยอด NPL อยู่ที่ร้อยละ 8.78 เนื่องจากเกษตรกรประสบปัญหาอุทกภัย แจงพร้อมเร่งดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ทั้งโครงการรับจำนำข้าวเปลือก บัตรสินเชื่อเกษตรกร และพักชำระหนี้เกษตรกร
นายลักษณ์  วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของ ธ.ก.ส. ในช่วง 9 เดือน หรือ ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 (1 เมษายน-31 ธันวาคม 2554) ว่า ได้จ่ายสินเชื่อเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคชนบทไปแล้ว 379,781 ล้านบาท   ทำให้มียอดสินเชื่อรวม 726,659 ล้านบาท ขยายตัวจากต้นปีบัญชี 149,068 ล้านบาท หรือร้อยละ 25.81  สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 9.18  ทั้งนี้มาจากการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 ทำให้สินเชื่อนโยบายรัฐขยายตัวจากต้นปี 66,740   ล้านบาท ขณะเดียวกันสินเชื่อปกติของ ธ.ก.ส. เติบโตเพิ่มขึ้น 82,328 ล้านบาท   

ด้านเงินฝากมียอดรวมจำนวน 789,696 ล้านบาท  เพิ่มขึ้นจากต้นปีบัญชีจำนวน 63,123 ล้านบาท    หรือร้อยละ 8.69  จากผลิตภัณฑ์เงินฝากโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการเงินฝากดอกเบี้ยทันใจ 10 โครงการเกษียณอายุ  เงินฝากออมทรัพย์ทวีโชค  ออมทรัพย์ทวีสิน เป็นต้น จะเห็นได้ว่าจากการที่ ธ.ก.ส.ขยายสินเชื่อเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.81  ซึ่งสูงกว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของเงินฝากที่ร้อยละ 8.69 ส่งผลให้อัตราเงินให้สินเชื่อต่อเงิน  รับฝาก (L/D Ratio) เพิ่มขึ้นจากต้นปีที่ร้อยละ 79.50 เป็นร้อยละ 92.02 และทำให้อัตราสินทรัพย์สภาพคล่องต่อสินทรัพย์รวมลดลงจากต้นปีซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 23.02  เป็นร้อยละ 11.30

สำหรับผลการดำเนินงาน ณ 31 ธันวาคม 2554 มีรายได้รวม 39,408 ล้านบาท  เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 6,259 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากดอกเบี้ย 37,551 ล้านบาท  รายได้จากค่าธรรมเนียมและการบริการ 1,156 ล้านบาทและรายได้อื่น ๆ 701 ล้านบาท  ส่วนค่าใช้จ่ายมีจำนวน 34,460 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 6,176 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย 10,362 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายดำเนินงาน 13,173 ล้านบาท หนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ 10,925 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิรวม 4,949 ล้านบาท  โดยมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือ NPLs จำนวน 57,168 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมร้อยละ 8.78 เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาเกษตรกรประสบอุทกภัยในหลายพื้นที่    ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานดังกล่าวทำให้ ธ.ก.ส. มีสินทรัพย์รวมจำนวน 950,717 ล้านบาทเพิ่มจากต้นปีบัญชี 51,699 ล้านบาท  หนี้สินรวม 867,778 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 50,489 ล้านบาทและส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 82,939 ล้านบาท


สำหรับโครงการสำคัญตามนโยบายของรัฐบาล ธ.ก.ส. ได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ ประกอบด้วย โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 โดยกรมส่งเสริมการเกษตรได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรจำนวน 3,560,400  ราย และผ่านการทำประชาคมพร้อมออกหนังสือรับรองเกษตรกรแล้วจำนวน 3,422,549 ราย มีจำนวนโรงสีและตลาดกลางที่เปิดจุดรับจำนำ จำนวน 845 แห่ง ซึ่ง ธ.ก.ส. ได้ทำสัญญาและจ่ายเงินกู้แก่เกษตรกรไปแล้ว 897,709 ราย ปริมาณข้าวเปลือก 5.5 ล้านตัน จำนวนเงิน 91,884 ล้านบาท ส่วนการสีแปรสภาพข้าวเปลือกเป็นข้าวสารส่งมอบคลังสินค้ากลาง ดำเนินการไปแล้วจำนวน 2.03 ล้านตัน ทั้งนี้เมื่อสิ้นสุดโครงการ ธ.ก.ส. คาดว่าจะรับจำนำข้าวได้จำนวน  8 ล้านตัน จากเป้าหมาย 25 ล้านตัน เป็นเงิน 130,436 ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากเกษตรกรประสบอุทกภัยผลผลิตได้รับความเสียหาย ขณะที่ราคาข้าวเปลือกในตลาดอยู่ในเกณฑ์ดี เกษตรกรจึงขายข้าวเปลือกให้กับพ่อค้าในท้องถิ่น

โครงการบัตรสินเชื่อเกษตรกร ธ.ก.ส. ได้ว่าจ้างบริษัท วี สมาร์ท จำกัด เป็นผู้ดำเนินการติดตั้งระบบและจัดหาอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องให้แก่ร้านค้า และสาขาทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายส่งมอบบัตรให้แก่เกษตรกร 2 ล้านใบ และร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 3,000 ร้านค้าภายในเดือนพฤษภาคม 2555  ทั้งนี้ได้ดำเนินการทดลองระบบดังกล่าวในพื้นที่นำร่อง 5จังหวัดไปแล้ว ได้แก่ เชียงใหม่ อุดรธานี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี และสระบุรี มีจำนวนลูกค้าที่ทดลองใช้บัตร 5,339 ราย และได้ขึ้นทะเบียนร้านค้าทั่วประเทศไปแล้ว 1,930 ร้านค้า

โครงการพักชำระหนี้ลูกค้า ธ.ก.ส. ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2554 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2557 รวม 3 ปี ขณะนี้มีลูกค้าผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการมายื่นแสดงความประสงค์จำนวน 368,765 ราย ต้นเงินเป็นหนี้จำนวน 45,887 ล้านบาท ทั้งนี้หลังจากทราบเงื่อนไข มีผู้ยื่นความประสงค์เข้าร่วมโครงการ 313,451 ราย จำนวนหนี้ 39,004 ล้านบาท และไม่ประสงค์เข้าร่วมโครงการ 55,314 ราย จำนวนหนี้ 6,883 ล้านบาท โดยสาเหตุที่ไม่เข้าร่วมโครงการเพราะได้รับการช่วยเหลือจากมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม เป็นลูกค้าที่รอรับการช่วยเหลือจากกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร(กฟก.) และบางส่วนเป็นลูกหนี้ที่มีหนี้รวมทุกสถาบันการเงินเกิน 500,000 บาท

ผลสอบ 7 วิชาสามัญ เด็กไทยอ่อนคณิต


นายสัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ หรือ สทศ.   กล่าวว่า หลังจากที่ สทศ. ได้จัดสอบวิชาสามัญ 7 วิชา เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการรับบุคคลเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษานั้น จากผลสอบ พบว่า วิชาคณิตศาสตร์ได้คะแนนเฉลี่ยต่ำที่สุด ซึ่งมากกว่าวิชาฟิสิกส์และเคมีที่ได้คะแนนดีกว่า  ซึ่งคะแนนออกมาดังนี้

วิชาภาษาไทย คะแนนเต็มทั้งหมด 100 คะแนนเฉลี่ย 54.61 คะแนน คะแนนต่ำสุด 4 คะแนน คะแนนสูงสุด 90 คะแนน // วิชาสังคมศึกษา คะแนนเต็มทั้งหมด 100  คะแนนเฉลี่ย 32.97 คะแนน คะแนนต่ำสุด 0 คะแนน  คะแนนสูงสุด 84 คะแนน // วิชาภาษาอังกฤษ คะแนนเต็มทั้งหมด 100 คะแนนเฉลี่ย 28.43 คะแนน คะแนนต่ำสุด 1.25 คะแนน คะแนนสูงสุด 92.50 คะแนน  //  วิชาคณิตศาสตร์ คะแนนเต็มทั้งหมด 100 คะแนน คะแนนเฉลี่ย 19.92 คะแนน คะแนนต่ำสุด 0 คะแนน คะแนนสูงสุด 100 คะแนน  // วิชาฟิสิกส์ คะแนนเต็มทั้งหมด 100 คะแนนเฉลี่ย 23.54 คะแนน คะแนนต่ำสุด 0 คะแนน คะแนนสูงสุด 100 คะแนน  //  วิชาเคมี คะแนนเต็มทั้งหมด 100 คะแนน คะแนนเฉลี่ย 25.75 คะแนน คะแนนต่ำสุด 2 คะแนนคะแนนสูงสุด 90 คะแนน //  วิชาชีววิทยา คะแนนเต็มทั้งหมด 100 คะแนน คะแนนเฉลี่ย 32.75 คะแนน คะแนนต่ำสุด 1 คะแนน คะแนนสูงสุด 93 คะแนน

โดยผลการสอบวิชาสามัญ 7 วิชา  หรือการสอบ  GAT /  PAT  เป็นสิ่งที่สะท้อนว่า เด็กไทยต้องพัฒนาทักษะด้านการทำข้อสอบและการตั้งใจศึกษาเล่าเรียนมากยิ่งขึ้น

ขก.เตรียมรับมือภัยแล้ง


หลังจากสภาพอากาศมีการแปรปรวนเกิดฝนตกและมีอากาศร้อนในช่วงหน้าหนาว  ทำให้หลายหน่วยงานร่วมมือกันหารือถึงการป้องกันภัยธรรมชาติต่างๆ อาทิ ภัยน้ำท่วมและภัยแล้ง  ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามกรณีการรับมือภัยแล้งในปี 2555 กับ นางสุพรรัตน์ แสงมาลี  หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ.จังหวัดขอนแก่น  ซึ่งได้เปิดเผยข้อมูลว่า  ปภ.ได้ร่วมมือกับสำนักชลประทานที่ 6 ในการแชร์ข้อมูลเพื่อหาแหล่งน้ำในจังหวัดทำแก้มลิง 

นางสุพรรัตน์ แสงมาลี  กล่าวเพิ่มเติมว่า  ในขณะนี้ยังไม่มีจังหวัดใดถูกประกาศเป็นพื้นที่ภัยแล้ง  ซึ่งหน้าร้อนทุกปีจะเริ่มต้นช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์   และช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงเมษายน  จะเป็นช่วงที่มีอุณหภูมิสูงสุดในรอบปี   จึงเตือนประชาชนให้ติดตามข่าวสารสภาพอากาศและเตรียมรับมืออยู่เสมอ

คุณหมอชุดครุย


ภายหลังจากที่คุณหมอชุดครุย  หรือ นายแพทย์ภาคย์ ธารไพรสาณ หรือ หมอโอ๊ต บัณฑิตแพทย์รุ่น 48 คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่มีชื่อเสียงจากการช่วยเหลือชีวิตคน จาการรับพระราชทานปริญญาบัตรเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขณะเดินทางกลับที่พัก พบอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ชนกัน อยู่ด้านหน้ารถของนายแพทย์ภาคย์พอดี   จึงลงเข้าไปพร้อมแสดงตัว ว่าตนเองนั้นเป็นหมอ และได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลที่ใกล้เคย ซึ่งหมอโอ๊ตได้กล่าวต่อไปว่า เหตุผลที่เข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ เป็นจิตสำนึกของนักศึกษาแพทย์ทุกคน

ทันทีที่ผู้บาดเจ็บ ซึ่งเป็นนางสาวอรวรรณ สุริยา หรือ น้องฝ้าย นักศึกษาปี 4 คณะสื่อสารมวลชนมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทราบว่าตนได้รับการช่วยเหลือเบื้องต้นจากบัณฑืตแพทย์   คือหมอโอ๊ตได้เข้าไปช่วยเหลือ จึงได้โพสลงในโลกเว็ปไซค์ต่างๆ เพื่อเป็นการขอบคุณคุณหมอโอ๊ต และกล่าวชื่นชมในตัวคุณหมอโอ๊ต

ทั้งนี้ทีมข่าว มีโอกาศ  ติดตามประวัติของคุณหมอชุดครุย ทราบว่าได้ทำงานเป็นแพทย์ใช้ทุน อยู่ที่ รพ.ขอนแก่น จากที่เคยศึกษาอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบันทำงานเป็นแพทย์ใช้ทุน อยู่ตึกอายุรกรรมชาย 2 โรงพยาบาลขอนแก่น ให้สัมภาษณ์ว่า ภาพที่ปรากฏเป็นจริงทุกประการ

รองผู้ว่าฯเตือนมีสติรู้ทันภัยธรรมชาติ


ทีมข่าวโฮมทีวีได้รับเกียรติสัมภาษณ์ นายทรงพล จำปาพันธ์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น  ในรายการคุยหลังข่าว   ภายหลังที่ได้มารับตำแหน่งกลับมาเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นอีกครั้ง  ซึ่งท่านก็ได้รับหน้าที่ดูแล เรื่องการดูแลเศรษฐกิจรวมถึงแนวทางป้องกันและภัยธรรมชาติในจังหวัดขอนแก่น  ซึ่ง 2 เรื่องดังกล่าว ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ

นายทรงพล  กล่าวว่า ในฐานะดูแลด้านการป้องกันและบรรเทาภัยธรรมชาติในจังหวัด  ได้เผยทัศนคติการรับมือภัยธรรมชาติในยุคปัจจุบันว่า   ในปีหนึ่งเราต้องเจอภัยธรรมชาติที่หลายหลาก อาทิ ภัยแล้ง  อุทกภัย  และภัยหนาว  ซึ่งด้านการป้องกันและเยียวยาผู้ประสบภัย  ทางรัฐบาลและส่วนราชการจังหวัดก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ  หารือเพื่อร่วมมือในการแก้ไขปัญหาตลอดมา

แต่ด้านการรับมือภัยธรรมชาติส่วนบุคคลหรือในฐานะประชาชน   ขอให้ทุกคนอย่าตื่นตระหนกกับภัยธรรมชาติมากเกินเหตุ  ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติขนาดเล็กหรือใหญ่  ถ้าทุกคนตั้งสติและช่วยเหลือกันอยู่เสมอ จะทำให้ท้องถิ่นรวมถึงประเทศชาติผ่านภัยต่างๆด้วยดี

01 กุมภาพันธ์ 2555

รร.พูลแมน ซ้อมหนีไฟ


โรงแรมพูลแมนขอนแก่นราชาออคิด      ร่วมกับเทศบาลนครขอนแก่น  ส่วนของบรรเทาสาธารณภัย  และป้องกันจังหวัดด  สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด  และสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองขอนแก่น  จัดให้มีการปฏิบัติตามแผนฝึกซ้อมระงับอัคคีภัยในอาคารสูงจังหวัดขอนแก่น     เพื่อเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน  และสร้างความมั่นใจทางระบบระงับอัคคีภัยในโรงแรม   

บรรยากาศการฝึกซ้อมหนีไฟ  มีการซ้อมการช่วยเหลือผู้ติดในอาคารด้วยการใช้รถกระเช่า  และการโรยตัวผู้ติดให้ออกมาอย่างปลอดภัย        ซึ่งเป็นการสมมุติเหตุการณ์เกิดอัคคีภัยที่ชั้น 15 ของโรงแรม  ซึ่งมีแขกผู้เข้าพักที่โรงแรม 97 ห้อง  เป็นจำนวน 180 ท่าน  โดยมีพนักงานโรงแรมพร้อมตัวแทนร้านเช่า  เข้าร่วมการซักซ้อมกว่า 400 คน

นายโอเล่ นีลเซ่น  ผู้จัดการใหญ่โรงแรมพูลแมนขอนแก่นราชาออคิด      กล่าวว่า  ทางโรงแรมมีการอบรมพนักงานเกี่ยวกับการฝึกซ้อมระงับอัคคีภัยทุกปี  โดยแต่ละครั้งจะต้องมีพนักงานเข้าอบรมไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80  เพื่อให้พนักงานได้มีความรู้ความเข้าใจและปฏิบัติจริงได้ 

นอกจากนี้ทางโรงแรม ยังมีการตรวจสอบระบบป้องกันอัคคีภัยทุกเดือน  ส่วนถังเคมี และสายไฟ มีการตรวจสอบคุณภาพทุกๆ วันที่ 25 ของเดือน เพื่อความปลอดภัยกับลูกค้าและพนักงาน

ประชุมยกเลิกจุดตัดทางรถไฟ


การประชุมการแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟระดับจังหวัด  มีขึ้นที่ศาลากลางจังหวัด มีนายพยัต  ชาญประเสริฐ  รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น  เป็นประธานการประชุม  โดยกรมทางหลวงชนบท  ขออนุญาตดำเนินการก่อสร้างทางต่างระดับตัดผ่านทางรถไฟ  บริเวณจุดตัดทางรถไฟถนนสาย ขก.1027  แยกทางหลวงหมายเลข 2  จุดตัดบ้านโคกท่า  อ.เมืองขอนแก่น และ จุดตัดบ้านหนองไผ่ 

นอกจากนี้ในที่ประชุมยกมือลงมติเห็นด้วยในการให้ยกเลิกใช้ทางลักผ่านจุดตัดรถไฟที่องค์การบริหารส่วนตำบลโจดหนองแก อ.พล  และขออนุญาตใช้ทางลักผ่านจุดตัดทางรถไฟที่  ที่ กม.381+508.00 และ 385+412.00 แทน

นายกำพล  บุญชม  วิศวกรกำกับการกองบำรุงทางเขตขอนแก่น  กล่าวว่าจุดตัดทางรถไฟถนนสาย ขก.1027  แยกทางหลวงหมายเลข 2  จุดตัดบ้านโคกท่า  อ.เมืองขอนแก่น และ จุดตัดบ้านหนองไผ่  ได้ยื่นหนังสือดำเนินการขออนุมัติไปเรียบร้อยแล้ว  เหลือเพียงการออกพระราชกฤษฎีกาเวียนคืน  คาดว่าภายใน 2 ปีหากอนุมัติก็จะเร่งดำเนินการก่อสร้างต่างระดับตัดผ่านทางรถไฟ

อย่างไรก็ตาม  หากโครงการนี้แล้วเสร็จ  จะทำให้ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนผ่านเส้นทางดังกล่าว  มีความมั่นใจและปลอดภัยในการใช้ถนนมากยิ่งขึ้น

ประชุมเตรียมเสนอโครงการ ต่อครม.สัญจร


การประชุมคณะทำงานยกร่างข้อเสนอโครงการที่สำคัญ  เพื่อนำเข้าหารือร่วมกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง  ก่อนวันประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร  มีขึ้นที่ห้องประชุมเสียงแคน  ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น  โดยมีนายธนวัฒน์  พลอยโสภณ  รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น  เป็นประธานการประชุม

ในที่ประชุมมีการแจ้งเรื่อง  ตามที่ได้กำหนดให้มีการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ  นอกสถานที่  ที่จังหวัดอุดรธานี  ในวันที่ 21-22  กุมภาพันธ์ 2555  รัฐมนตรีมีกำหนดตรวจราชการในพื้นที่ จ.อุดรธานี  หนองคาย หนองบัวลำภู เลย บึงกาฬ  สกลนคร  นครพนม  มุกดาหาร ขอนแก่น มหาสารคาม  ร้อยเอ็ด และกาฬสินธุ์  โดยการประชุม กรอ. จะมีขึ้นในวันที่ 21 กพ 55 และการประชุม ครม. มีขึ้นวันที่ 22 กพ 55   ซึ่งในงานจะมีการนำเสนอโครงการของ 12 จังหวัด  เข้าที่ประชุม

นายธนวัฒน์  พลอยโสภณ  รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น  กล่าวว่า  ในส่วนจ.ขอนแก่น  จะมีการเสนอโครงการเป็น 3 กลุ่ม  จำนวน 17 โครงการ  งบประมาณทั้งสิ้น 9,678,000,000  บาท  โดยแผนงานหรือโครงการที่เสนอควรเป็นโครงการที่มุ่งเน้นแก้ไขปัญหาสำคัญของพื้นที่และประชาชนในจังหวัด  ไม่เคยได้รับการสนับสนุนงบประมาณ  และไม่อยู่ในระหว่างการขอรับการสนับสนุนงบประมาณ  จะต้องทำรายละเอียดลงในแบบฟอร์มข้อมูลพื้นฐานโครงการของจังหวัด   

ปลุกจิตสำนึกเยาวชนในการขับขี่


ที่ห้องโสตทัศนูปกรณ์ โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย นักเรียนโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย  เข้าร่วมโครงการฝึกอบรมเยาวชนขับขี่ปลอดภัยเสริมสร้างวินัยจราจร  โครงการดังกล่าวเป็นหนึ่งในโครงการที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณสุข เขต 6 ขอนแก่น  ได้ร่วมกับบริษัท เพอร์นอต ริคาร์ด (ประเทศไทย)  สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น  สำนักงานขนส่งจังหวัดขอนแก่น  บริษัทห้าง โอวเปงฮง จำกัด และโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย

ภายในงานผู้เข้าร่วมโครงการได้เรียนรู้ทฤษฎี  อาทิ  โทษของการดื่มซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ  ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายทางบก  องค์ประกอบการขับขี่ปลอดภัย  และยังมีการฝึกภาคปฏิบัติ  การขับขี่รถจักรยานอย่างถูกต้องและปลอดภัย   ประกอบด้วย  การใช้เบรกอย่างถูกวิธี  การขับรถหลบสิ่งกีดขวาง การขับรถในทางแคบ  และการขับรถบนลูกระนาด 

นายชวลิต  ว่องสุวรรณเลิศ   กรรมการบริหาร เพอร์นอต ริคาร์ด (ประเทศไทย)  กล่าวถึงโครงการนี้ว่า เป็นโครงการที่จะช่วยปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนได้รับความรู้ทักษะเกี่ยวกับการขับขี่จักรยานยนต์อย่างถูกต้องตามหลักการขับขี่ปลอดภัย  ถูกกฎจราจร  และมีโอกาสนำความรู้  เข้าสอบเพื่อขอใบอนุญาตขับขี่  รถจักรยานยนต์จากกรมขนส่งทางบก   และเพื่อลดปัญหาอุบัติเหตุจราจรในน้อยลงตามนโยบายของรัฐบาล

SIPA อบรมซอฟต์แวร์ให้ผู้ประกอบการ


การสัมมนส่งเสริมการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาด้านซอฟต์แวร์  และการใช้ซอฟต์แวร์ให้กับผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ และประชาชนทั่วไป  มีขึ้นที่ห้องมงกุฎพลอย  โรมแรมโฆษะขอนแก่น  โดยสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟแวร์แหง่ชาติ (องค์การมหาชน) หรือ SIPA   จัดสัมมนาเรื่องกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาด้านซอฟต์แวร์ไปใช้  และสร้างความตระหนักในการใช้ซอฟต์แวร์ที่ถูกต้องตามกฏหมาย  เพื่อให้ผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ และประชาชนทั่วไป  เช่น  การใช้ซอฟต์แวร์โอเพ่นไปใช้  และสร้างการใช้ซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์ที่มีราคาแพง  พร้อมสร้างจิตสำนึกในการเคารพสิทธิ์  และได้รับรู้แนวปฏิบัติเมื่อเกิดการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา


ภายในงานได้รับเกียรติจากนายธวัชชัย  โคตรวงษ์  ผู้จัดการสาขาขอนแก่น  เป็นประธานในพิธี  พร้อมทั้งผู้ร่วมการสัมมนา  ยังได้ฟังบรรยายหัวข้อ  ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับลิขสิทธิ์  ที่เกี่ยวกับข้องกับซอฟต์แวร์และคอมพิวเตอร์  //  การจดแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์  และความคุ้มครองลิขสิทธิ์ภายใต้กฎหมายอื่น  และหัวห้อ  ศักยภาพของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ไทย  กับการบริหารจัดการสิทธิเหนือลิขสิทธิ์

อย่างไรก็ตามโครงการส่งเสริมการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาด้านซอฟต์แวร์  และการใช้ซอฟต์แวร์ให้ถูกต้องตามกฎหมาย  จะมีการดำเนินโครงการ รวมด้วยกันทั้งสิ้น 5 ครั้ง  ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3  ส่วนที่เหลืออีก 2 ครั้ง ได้แก่ อ.หาดใหญ่ และกรุงเทพมหานคร

สคร. เดินหน้าป้องกันมะเร็งท่อน้ำดี


นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เป็นประธานเปิดงาน การประชุมหารือแนวทางการป้องกันโรคมะเร็งท่อน้ำดีในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  ที่โรงแรมเจริญธานีขอนแก่น โดยมีบุคลากรจาก สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดอุดรธานี  รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์จังหวัดขอนแก่น ร่วมประชุม  เพื่อกำหนดนโยบายในการรณรงค์ประชาชนอีสานเลิกรับประทานปลาดิบ

ซึ่งก่อนเริ่มการประชุมอย่างเป็นทางการ  นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย พร้อมคณะ อาทิ พญ. ขจีรัตน์ ปรักเอโก รองผู้อำนวยการสำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. เขต 7 ขอนแก่น // และรศ.นพ.พิศาล ไม้เรียง  หัวหน้าภาควิชาอายุรศาสตร์  คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกันแถลงข่าวแก่สื่อมวลชนในจังหวัด ถืงการดำเนินการที่ผ่านมาของการรณรงค์โรคมะเร็งท่อน้ำดี


จากการแถลงข่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ด้านการวิจัยศึกษาวิธีคัดกรองโรคท่อน้ำดีในผู้ป่วย  รศ.นพ.พิศาล ไม้เรียง  เปิดเผยข้อมูลว่า คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น  สามารถค้นพบการตรวจคัดกรองอินเตอร์ลิวคิน 6 โดยใช้สารคัดหลั่งจากเซลล์เยื่อบุท่อน้ำดีและเซลล์พังผืด มาเป็นตัวตรวจวัดเลือด  ซึ่งได้ผลดีและมีราคาถูกกว่าการตรวจอัลตร้าซาวด์  ถือเป็นการพัฒนาด้านการรักษาผู้ป่วยอีกขั้น

จ.ขอนแก่นจะเติบโตแบบก้าวกระโดด


นายประเสริฐ ประคุณศึกษาภัณฑ์ สมาชิกวุฒิสภา จังหวัดขอนแก่น กล่าวในงาน ปาฐกถา พิเศษ ขอนแก่นก้าวสู่ เมืองมหานคร ที่หอการค้าจังหวัดขอนแก่นจัดขึ้น ในวันเสาร์ ที่ 28 มกราคม 2555 ว่าจังหวัดขอนแก่นเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่และมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาภูมิภาคของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ในแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก ตะวันตก ตัดกับแนวเชื่อมโยงเศรษฐกิจเหนือ ใต้ สู่พื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก จังหวัดขอนแก่นจึงมีศักยภาพเอื้ออำนวยต่อการส่งเสริมการค้า การลงทุน เนื่องจากเป็นศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมีโครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆพร้อมรองรับการพัฒนา

                ดังนั้นจังหวัดขอนแก่นจึงมีศักยภาพในการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและการลงทุนสูง มีปัจจัยหลายอย่างที่จะส่งเสริมและกระตุ้นการลงทุน  จุดที่ตั้งของขอนแก่นมีความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ ซึ่งสอดรับกับยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของรัฐบาล ที่กำลังจะมีโครงการรถไฟรางคู่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ


นอกจากนั้นนายประเสริฐ ยังได้กล่าวต่อไปว่า เมืองขอนแก่นจะสามารถรองรับกิจกรรมต่างๆได้ แต่ในอนาคตขอนแก่นจะต้องเผชิญกับปัญหาที่เกิดขึ้นจากการพัฒนาที่ไม่สมดุลกับการเติบโตเหมือนเมืองหลักในภูมิภาคอื่นๆของประเทศ เช่น ปริมาณการจราจรที่เพิ่มมากขึ้นตามสภาพเศรษฐกิจ จำนวนประชากรและกิจกรรมต่างๆที่เพิ่มมากขึ้น