ธ.ก.ส.กู้ ธปท.
60,000 ล้านบาทช่วยเกษตรกรน้ำท่วม
ธ.ก.ส. ยื่นขอกู้ Soft
loan จากแบงก์ชาติ 60,000 ล้านบาท
ดอกเบี้ยร้อยละ 0.01 ระยะเวลา 5 ปี
โดยนำไปปล่อยกู้ต่อเกษตรกรและผู้ประกอบการที่ประสบอุทกภัยในอัตราร้อยละ
3 เพื่อเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ
นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
(ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ธ.ก.ส. มีมติเห็นชอบให้กู้เงิน Soft
loan จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จำนวน 60,000 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ
0.01 ต่อปี ระยะเวลา 5 ปี
เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย
โดยสมทบกับเงินทุนของ ธ.ก.ส. อีกร้อยละ 30
เพื่อนำไปปล่อยกู้ให้แก่บุคคลธรรมดา
ไม่เกินรายละ 1 ล้านบาทและผู้ประกอบการไม่เกินรายละ 30 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี
นอกจากนี้ยังเห็นชอบให้ลดหย่อนหลักประกันเงินกู้นอกเหนือจากข้อบังคับของ
ธ.ก.ส. คือ
กรณีใช้หลักประกันรับรองรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมกัน หรือใช้บุคคลตั้งแต่ 2
คนขึ้นไปค้ำประกันหนี้เงินกู้
ให้กู้ได้ไม่เกิน รายละ 100,000
บาท โดยให้แยกวงเงินค้ำประกันตามมาตรการนี้ต่างหากจากวงเงินค้ำประกันปกติของ
ธ.ก.ส. กรณีใช้อสังหาริมทรัพย์จำนองเป็นประกันพร้อมสิ่งปลูกสร้าง
ให้ขยายวงเงินกู้จากหลักเกณฑ์ปกติที่กู้ได้ไม่เกินครึ่งหนึ่งของวงเงินจดทะเบียนจำนอง เป็นให้กู้ได้ไม่เกินวงเงินจดทะเบียนจำนอง
และกรณีใช้อสังหาริมทรัพย์จำนองเป็นประกันพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่จะเกิดขึ้นจากการใช้สินเชื่อ ให้กู้ได้เต็มมูลค่าที่ดิน ส่วนทรัพย์ที่เกิดจากการใช้สินเชื่อให้กู้ได้ไม่เกินร้อยละ 80
ของมูลค่าจริงของทรัพย์ที่เกิดจากการใช้สินเชื่อ
นายลักษณ์กล่าวอีกว่า ลูกค้าที่ขอกู้เงินเพื่อนำไปฟื้นฟูการผลิต ทั้งในกรณีที่กู้ไปแล้วและกำลังจะกู้ใหม่ จะได้รับสิทธิในการลดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ
3 ต่อปี
เพื่อแบ่งเบาภาระในการฟื้นฟูการประกอบอาชีพ
การสร้างโอกาสในการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มรายได้ ทั้งนี้ผู้กู้จะต้องส่งชำระคืนต้นเงินพร้อมดอกเบี้ยภายในระยะเวลา
5 ปีหรือไม่เกินปี 2561 ตามข้อกำหนดของ ธปท. ซึ่งถ้าเกินกำหนด
ธปท.อนุมัติให้คิดดอกเบี้ยในอัตรา MRR
อย่างไรก็ตามเพื่อให้เงินทุนอัตราดอกเบี้ยต่ำดังกล่าว คลอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า ธ.ก.ส. จะหารือร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์และ
ธปท. ในการปล่อยกู้ให้กับสมาชิกสหกรณ์การเกษตรได้ด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น