หลังจากมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.บัตรประจำตัวประชาชน ด้วยมติ 222 ต่อ 81 โดยตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมา พิจารณาจำนวน 36 คน ทั้งนี้ ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว การแก้ไขกฎเกณฑ์การมีบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ โดยขยายอายุให้คนไทยทุกคน ต้องมีบัตรประจำตัวประชาชนตั้งแต่ 1 ปี นับแต่วันเกิด หรือ 60 วัน นับแต่วันได้สัญชาติไทย อ้างว่า เพื่อให้ผู้มีสัญชาติไทยทุกคนต้องมีบัตรประจำตัวประชาชนตั้งแต่เกิด และ กำหนดให้ยกเว้นการมีบัตรเฉพาะพระบรมวงศานุวงศ์ รวมทั้งตัดเงื่อนไขการมีชื่อในทะเบียนบ้านออก เนื่องจากเป็นเพียงวิธีการพิสูจน์ความเป็นผู้มีสัญชาติไทย และการกำหนดเงื่อนไขอันจะเป็นผลให้ผู้มีสัญชาติไทยไม่อาจมีบัตรได้ ย่อมไม่ สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่จะให้ผู้มีสัญชาติไทยทุกคนต้องมีบัตร นอกจากนี้ ยังได้ให้เพิ่มข้อความไว้ว่า บัตรประจำตัวประชาชนและให้ใช้บัตรดังกล่าวได้นับแต่วันออกบัตร และมีอายุ 10 ปี นับแต่วันเกิดของผู้ถือบัตร และมีหน่วยความจำ เพื่อบันทึกข้อมูลอื่นของผู้ถือบัตรด้วย แต่ข้อมูลที่บันทึกไว้ในหน่วยความจำดังกล่าว ไม่สามารถเปิดเผยต่อบุคคลหรือหน่วยงาน ซึ่งไม่ใช่เป็นผู้จัดทำ หรือรวบรวมข้อมูลนั้น ๆ ไว้ เว้นแต่เป็นข้อมูลทั่วไป ที่ปรากฏอยู่บนบัตร หรือเป็นการเปิดเผยต่อหน่วยงานที่มีความจำเป็นต้องทราบข้อมูลนั้นเท่าที่จำเป็น เพื่อเป็นประโยชน์ของผู้ถือบัตร และระบุระยะเวลาการบังคับใช้ในวาระเริ่มแรก แต่ไม่เกิน 2 ปี นับแต่ พ.ร.บ.ฉบับนี้ บังคับใช้ สำหรับการขอมี บัตรใหม่ของผู้มีอายุไม่ถึง 15 ปี ผู้ปกครองต้องไปยืนยันและดูแลการทำบัตร ทั้งนี้ หากครบระยะเวลาการขอมีบัตร แต่ยังไม่ยื่นขอมีบัตร มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท |
07 ตุลาคม 2553
สภาฯ ลงมิติให้มีบัตรประชาชนตั้งแต่อายุ 1 ปี
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น