2553 พบว่า เศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 ชะลอตัวลงจากไตรมาสแรก
ตามการชะลอตัวของการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนเป็นสำคัญ
ในขณะที่การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาสแรก
ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
แถลงข่าวสรุปภาวะเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือไตรมาสที่ 2 ของปี 2553
ว่า ขยายตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ตามการขยายตัวของการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน
และการลงทุนของผู้ประกอบการเป็นสำคัญ
ประกอบกับการใช้จ่ายของภาครัฐที่ยังคมเพิ่มขึ้นตามโครงการภายใต้ปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2
ชะลอตัวไปบ้างจากไตรมาสแรกตามการใช้จ่ายของประชาชน
ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคาสินค้าที่เริ่มสูงขึ้น
และเหตุการณ์ทางการเมืองโดยเฉพาะในเดือนพฤษภาคม
สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชนในไตรมาสที่ 2
ขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาสแรก
ตามความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการต่อภาวะเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ
จากสถานการณ์ทางการเมืองที่เริ่มคลี่คลายลง
ซึ่งเห็นได้จากทุนจดทะเบียนโรงงานเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ
26.3 และพื้นที่ขอรับอนุญาตก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.5
สำหรับการใช้จ่ายของรัฐในไตรมาสที่ 2 กลับหดตัวลงทั้งการใช้จ่ายประจำ
ที่ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3.3 และงบลงทุนที่ลดลงร้อยละ
64.0 ทำให้ในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ มีการใช้จ่ายตามงบประมาณลดลงร้อยละ 26.5
สำหรับสินเชื่อขยายตัวเพิ่มขึ้นทั้งในส่วยของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ
13.1 และสินเชื่อของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.8
ตามการผ่อนคลายให้สินเชื่อของสถาบันการเงิน
เนื่องจากมีความมั่นใจต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่มีความชัดเจนขึ้นเป็นลำดับ
ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองที่คลี่คลายลง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น