05 กรกฎาคม 2553

คนที่เป็นโรคซึมเศร้าเสี่ยงฆ่าตัวตาย

โฮมทีวี-นายแพทย์ทวี ตั้งเสรี ผอ.รพ.จิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ เปิดเผยว่า ในประเทศไทยมีอัตราการฆ่าตัวตายลดลง 3,500 คนต่อปี  ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำมากหากเทียบกับประเทศในแถบเอเชีย อย่างเกาหลีและญี่ปุ่น  โดยสาเหตุการฆ่าตัวตายส่วนใหญ่เกิดจากชีวิตที่มีปัญหารุมเร้าและหาทางออกปัญหาไม่ได้ จึงปลิดชีพตน

 

นายแพทย์ทวี กล่าวอีกว่า  อัตราการฆ่าตัวตายในประเทศไทยหากเทียบกับประเทศอื่นๆในแถบเอเชียจะพบว่า ประเทศไทยมีอัตราการฆ่าตัวตายที่ต่ำ  จากสถิติการฆ่าตัวตายปี 2552 เป็นต้นมา ของโรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ พบว่า อัตราการฆ่าตัวตายของประเทศไทยอยู่ที่ 5.9 ต่อแสนคน หรือ 3,500 คนต่อปี  ซึ่งประเทศไทยเคยประสบปัญหวิกฤติประชากรฆ่าตัวตายมากที่สุดที่ปี 2540 โดยอัตราการฆ่าตัวตายอยู่ที่ 8.2 คนต่อแสนคน ในปีนั้นสาเหตุที่มีคนฆ่าตัวตายเยอะเพราะว่า  มีคนล้มละลายจากพิษเศรษฐกิจ  ทำให้เกิดความเครียดจัดและฆ่าตัวตาย

 

สาเหตุหลักๆในปัจจุบันที่คนฆ่าตัวตายกัน  อยู่ที่เรื่องภาวะจิตใจไม่แข็งแรง  อ่อนไหวง่าย  และทนรับสภาพกดดัน ความผิดหวังไม่ไหว  ดังจะเห็นได้จากข่าวต่างๆ เช่น ชาวเฮติรายหนึ่ง ซึ่งเป็นแฟนบอลของทีมชาติบราซิล ตัดสินใจดับชีพตนหลังจากทีมชาติที่ตัวเองชื่นชอบตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลก2010  และอีกกรณีหนึ่งในประเทศไทยเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล 2 วัยเพียง 6 ขวบ เสียชีวิตด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ใช้เชือกผูกคอกับกิ่งไม้เลียนแบบละครทีวี

 

นายแพทย์ทวียัง  ย้ำว่า  ความเข้มแข็งของจิตใจในปัจจุบันเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ กระทั่งผู้สูงอายุ  เสียงต่อการฆ่าตัวตายทั้งนั้น ซึ่งสภาพแวดล้อมคนใกล้ชิดมีส่วนสำคัญที่ทำให้คนที่อยากฆ่าตัวตาย กลับตัวกลับใจใหม่ไม่ปลิดชีพตน  ซึ่งทุกคนต้องดูแลและพยายามเข้าใจกัน   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น