เมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา เป็นวันที่องค์กรเพื่อการรณรงค์ควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า องค์การอนามัยโลกและองค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ กำหนดให้เป็นวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตื่นตัว ช่วยกันป้องกัน และควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า ข้อมูลน่าสนใจ จากกระทรวงสาธารณะสุข เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนกันยายน มีคนไทยเสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้า 13 ราย เป็นชาย 10 ราย หญิง 3 ราย อายุระหว่าง 3 ปี ถึง 67 ปี ถูกสุนัขกัด 12 ราย อีก 1 ราย ถูกแมวกัด ส่วนใหญ่หลังถูกกัดไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกัน หรือฉีดเพียงเข็มเดียว จากการสอบสวนประวัติก่อนเสียชีวิต พบถูกกัดตั้งแต่ 1 เดือน จนถึง 1 ปี สุนัขที่กัด 9 ราย มีเจ้าของ แต่ไม่เคยฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้ามาก่อน ที่เหลือเป็นสุนัขจรจัด 3 ราย แมวจรจัด 1 ราย
โดยปีนี้มีคนไทยถูกสุนัข และแมวกัดทั้งหมด 446,255 พบว่า เด็กอายุ 1-10 ปี เป็นกลุ่มที่ถูกสุนัขกัดมากที่สุด ในช่วงปิดเทอมผู้ปกครองที่พาลูกหลานไปเที่ยว ขอให้หลีกเลี่ยงไม่ให้สุนัขกัดและให้กำชับเด็กหากถูกสุนัขกัด ให้รีบบอกผู้ปกครอง หรือครูทันที ซึ่งขณะนี้ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าปีละกว่า 55,000 ราย หรือร้อยละ 95 เกิดขึ้นในประเทศแถบเอเชีย และแอฟริกา
โรคพิษสุนัขบ้า ป้องกันได้ 2 วิธี คือ ฉีดป้องกันในสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว ต้องฉีดทุกปี และฉีดป้องกันในคนหลังถูกกัดด้วย ถึงแม้จะมีบาดแผลเพียงเล็กใหญ่ หรือแค่รอยถลอก รอยเล็บสัตว์ขีดข่วนก็ตาม จากการประเมินพบคนไทยยังมีความตื่นตัวเรื่องนี้น้อย มีการฉีดวัคซีนป้องกันในสัตว์เลี้ยงต่ำกว่าร้อยละ 80 โดยองค์การอนามัยโลก กำหนดควรครอบคลุมมากกว่าร้อยละ 80 จึงสามารถป้องกันการแพร่ระบาดโรคในสัตว์ได้สำเร็จ ดังนั้น จึงขอความร่วมมือคนเลี้ยงสุนัข แมว ให้พาสัตว์ทุกตัวไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าทุกปี
|
สำหรับโรคพิษสุนัขบ้า เป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คนที่มีอันตรายร้ายแรง หากปล่อยทิ้งไว้จนมีอาการป่วย จะเสียชีวิตทุกราย ไม่มียารักษา สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิดสามารถเป็นโรคนี้ได้ แต่ในประเทศไทยส่วนใหญ่สุนัขจะเป็นตัวนำโรคมาสู่คน เชื้อโรคจะอยู่ในน้ำลายของสุนัขที่เป็นโรค เชื้อโรคพิษสุนัขบ้าจะเข้าสู่ร่างกายคนทางบาดแผล หรือถูกเลียที่ปาก จมูก ตา เชื้อจะเข้าทางปลายประสาทและขึ้นสมอง ทำให้สมองหรือไขสันหลังอักเสบ โดยทั่วไปจะปรากฏอาการหลังได้รับเชื้อตั้งแต่ 7 วัน ถึงหลายปี แต่ส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง 1 ถึง 6 เดือน สัตว์ที่ป่วยเป็นโรคพิษสุนัขบ้ามีทั้งชนิดเซื่องซึม และอาการดุร้าย ชนิดดุร้ายสังเกตได้ง่าย ๆ คือ สัตว์มีนิสัยเปลี่ยนไปจากปกติ กระวนกระวาย ตื่นเต้น ไล่กัดคน หรือสัตว์อื่นที่ขวางหน้า กลืนอาหารและน้ำไม่ได้ หางตก น้ำลายไหล ส่วนใหญ่จะเสียชีวิตหลังมีอาการไม่เกิน 10 วัน หากเห็นสุนัข
มีอาการดังกล่าว ต้องรีบช่วยกันกำจัดทันที เพื่อไม่ให้ไปกัดคนหรือสัตว์อื่น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น