ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 นำโดย พ.ต.อ.สันติ ไทยเสถียร รอง ผบก.สส.ภ.4 พ.ต.อ.ดิเรก ยศนันท์ ผกก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.4 เเละ พ.ต.ท.เสนีย์ กาญจนคช สว.กก.สส.ภ.4 เเถลงข่าวจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสงขลา ในคดีลักทรัพย์ คือนางจตุพร เเน่นสนิท ผู้ต้องหาที่ 1 เเละนายยุทธชัย หนูเอียด ผู้ต้องหาที่ 2 ได้ที่ บ้าน เลขที่309 ถ.มะลิวัลย์ ต.บ้านเป็ด จ.ขอนเเก่น
สืบเนื่องจากนางจตุพร ได้หลบหนีหมายจับศาลมาจากจังหวัดสงขลา ในคดีลักทรัพย์เป็นทองคำรูปพรรณ มาจากห้างเพ็ชรทองงี่ฟ้า ตั้งอยู่ในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา หลังทำงานในห้างทองดังกล่าวมานานกว่า 6 ปี
นางจตุพรรับสารภาพว่าเริ่มลักทรัพย์เป็นทองรูปพรรณตั้งแต่ต้นปี 2550 เนื่องจากติดการพนันหวยมาเลย์อย่างหนัก เริ่มเเรกตนก็เล่นไม่มาก เเต่พอได้เงิน ก็เลยเกิดความโลภ ทำให้เล่นหนักขึ้นเรื่อยๆ จนพักหลังมีแต่เสียพนัน ประกอบกับไม่มีเงินไปชดใช้หนี้ให้กับเจ้ามือ จึงเกิดความคิดที่จะขโมยทรัพย์สินในร้าน โดยเริ่มจากทองคำรูปพรรณ แอบขโมยวันละเส้น เรื่อยมา ขณะที่ทางเจ้าของร้านเองให้ความไว้เนื้อเชื่อใจที่เห็นว่าตนเป็นคนที่ตั้งใจ ทำงาน เเละสามารถเรียนรู้งานได้เร็ว จึงมอบหน้าที่ในการซื้อขายเเลกเปลี่ยน พร้อมกับทำหน้าที่ในการเช็คสต๊อกทองคำรูปพรรณที่ทางร้านซื้อเข้ามา เพื่อจำหน่ายต่อ ให้กับลูกค้า
นางจตุพรเล่าต่อว่าตนจะใช้ช่วงเวลาในการนับจำนวนของทองคำรูปประพรรณในทุกๆ เช้า ในการยักยอก จนย่ามใจพักหลังๆ จึงเริ่มลักขโมยในจำนวนที่มากขึ้น จนเจ้าของร้านเริ่มสงสัย เเละได้สอบถามถึงบัญชีทองของร้าน จนมาทราบว่าตนเป็นคนยักยอกทองไป เมื่อเจ้าของร้านจับได้ว่าคนที่ขโมยทองรูปพรรณเป็นตนจริง ตนจึงยอมรับสารภาพ แต่ได้สัญญาว่าจะนำทองที่ขโมยไปมาคืนเจ้าของร้าน เเต่ก็ได้หลบหนีมาที่จังหวัดขอนเเก่นพร้อมกับแฟนหนุ่มจนมาถูกจับได้ในที่สุด
ระหว่างหลบหนี นางจตุพรได้นำเงินจากการขายทอง เป็นทุนเปิดเต้นท์รถมือสองพร้อมยังนำเงินบางส่วนเล่นหุ้นไปพร้อมๆกัน
ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 ได้ควบคุมตัวนางจตุพรเพื่อขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการเพิ่ม ซึ่งคาดว่าน่าจะมีผู้ร่วมในคดีนี้มากกว่า 2 คน ล่าสุดทางชุดสืบสวนสอบสวนสภ.หาดใหญ่ได้อายัดเต้นท์รถดังกล่าวเอาไว้เเล้ว
ทั้งนี้ทางกองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4จะได้ส่งตัวผู้ต้องหาทั้งสอง ให้กับเจ้าหน้าที่สืบสวนสภ.หาดใหญ่ เจ้าของคดี ที่อยู่ระหว่างเดินทางมารับตัวผู้ต้องหา เพื่อรับไปดำเนินคดีต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น