30 กันยายน 2553

หอการค้า ศึกษาดูงานตามโครงการ 1 ไร่ 1 แสน


คณะกรรมการหอการค้าจังหวัดขอนแก่น   พร้อมทั้งสื่อมวลชนในจังหวัดขอนแก่น  กว่า 20 คน  ลงพื้นที่แปลงนาสาธิต  ที่บ้านหนองแต้  ตำบลบ้านดง อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น    เพื่อศึกษาดูงานตามโครงการ 1 ไร่ 1 แสน    ซึ่งหอการค้าไทย   ร่วมกับหอการค้าจังหวัดขอนแก่น เพื่อต้องการส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถทำการเกษตรในเนื้อที่ 1 ไร่    ให้คุ้มค่ามากที่สุดและได้ผลผลิตจำนวนมาก   อาทิการปลูกข้าว , เลี้ยงกบ , เลี้ยงปลา , เลี้ยงเป็ด   โดยเน้นการใช้ปุ๋ยชีวภาพแทนปุ๋ยเคมี    

 

โครงการ1 ไร่ 1 แสน  เป็นโครงการนำร่องของประเทศไทยที่ทำการเกษตรบนเนื้อที่ 1 ไร่ให้ได้ประโยชน์สูงสุด    เดิมเกษตรกรจะได้เงินจากผลิตผลการเกษตร  ประมาณ   1 ไร่ เพียง 3 -  5 พันบาท   เมื่อเข้าร่วมโครงการจะผลักดันให้มีการทำเกษตรแบบผสมผสาน  ทำแบบไร่นาสวนผสม ปลูกพืช และเลี้ยงสัตว์ เพื่อเอาไว้บริโภคและขายเป็นรายได้   ถือเป็นโครงการเริ่มต้นที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำ  บนความรู้ของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง  

 

โครงการ 1 ไร่ 1 แสน  จะถูกหยิบยกไปนำเสนอในการประชุมสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ   ซึ่งจังหวัดขอนแก่นได้รับพิจารณาคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพสถานที่จัดประชุมสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ   ครั้งที่ 28   ระหว่างวันที่ 26 ถึง   28   พฤศจิกายนนี้  เพื่อระดมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะแนวทางในการแก้ไขและพัฒนาเศรษฐกิจ   เสนอต่อภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปพิจารณาและสนับสนุนต่อไป   รวมทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์ศักยภาพด้านการค้า  การลงทุน   การท่องเที่ยวและด้านเศรษฐกิจอื่นๆ   ของจังหวัดขอนแก่น  ให้ผู้ร่วมสัมมนาได้รับทราบแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัด 


เทศบาลนครขอนแก่น เตรียมจัดงานตลาดนัดสุขภาพ


ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน  ร่วมกับ กองทุนสุขภาพ  เทศบาลนครขอนแก่น  จัดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพภาคีเครือข่าย  ตลาดนัดสุขภาพ  ในวันที่ 8 ตุลาคม นี้  ที่ห้องมงกุฎเพชร  โรงแรมโฆษะ  ขอนแก่น    ซึ่งได้รับความมือเป็นอย่างดีจากภาคีเครือข่ายด้านสุขภาพ  ทั้งจากภาครัฐและเอกชน  ประกอบด้วย  โรงพยาบาลขอนแก่น  โรงพยาบาลศรีนครินทร์  โรงพยาบาลเวชประสิทธิ์  กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม.  ชุมชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น  และกลุ่มร้านยาคุณภาพ

 

โครงการตลาดนัดสุขภาพครั้งนี้    มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นและเชิญชวนให้พี่น้องชาวขอนแก่น  สนใจดูแลสุขภาพด้วยตนเอง  เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจในการพัฒนาโครงการด้านการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคภัยต่างๆ     

 

กิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 8 ตุลาคมนี้  มีเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้  หัวข้อ เรื่องเล่าจากพื้นที่ โครงการและนวัตกรรมเด่นจาก องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  และหัวข้อ  การขับเคลื่อนสุขภาพภาคประชาชน    นอกจากนั้นมีการจัดแสดงบูธนิทรรศการ   การแสดงผลงาน  อาทิ นวัตกรรมเด่น  ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และโครงการกึ่งสำเร็จรูป    ซึ่งไฮไลท์ของงานตลาดนัดสุขภาพ  คือ การออกกำลังกายพร้อมกันในห้องประชุม 


นายจุลนพ  ทองโสภิต  รองนายกเทศมนตรี เทศบาลนครขอนแก่นในฐานะในประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดทำแผนและพัฒนาโครงการ    เชิญชวนให้พี่น้องชาวขอนแก่นไปร่วมงานตลาดนัดสุขภาพ ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ 

 

 โครงการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพภาคีเครือข่าย  ตลาดนัดสุขภาพ   โดยกองทุนสุขภาพ เทศบาลนคร  ขอนแก่น  ที่กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 8 ตุลาคมนี้  ที่ห้องมงกุฎเพชร  โรงแรมโฆษะขอนแก่น    นับว่าเป็นอีกช่องทางหนึ่ง  ที่จะกระตุ้นให้ชาว ขอนแก่นลุกขึ้นมาสนใจดูแลสุขภาพตนเองมากยิ่งขึ้น


โอกาสและความท้าทายในการประกอบธุรกิจในเวียดนาม


ผู้ประกอบการและผู้สนใจลงทุนประกอบกิจการในประเทศเวียดนาม  ร่วมการสัมมนา "โอกาสและความท้าทายในการประกอบธุรกิจและการลงทุนในเวียดนาม"  ที่โรงแรมโฆษะ จังหวัดขอนแก่น ที่จัดโดยสถานกงสุลเวียดนาม ประจำประเทศไทย จัดขึ้น  เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านต่างๆ ของประเทศเวียดนามกับนักลงทุนไทย

 

งานนี้ เป็นการร่วมมือกันระหว่างประเทศไทยและประเทศเวียดนาม โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม  เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามผู้มีอำนาจเต็มประจำราชอาณาจักรไทย และรองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ

 

การสัมมนาครั้งนี้เป็นเครื่องหมายแสดงถึงการพยายามอย่างจริงจังเพื่อผลักดันความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุนระหว่างเวียดนามกับไทย และเป็นการขยายความร่วมมือตามแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออกตะวันตก และมีส่วนในการสถาปนาประชาคมเศรษฐกิจ ASEAN ในปี 2558

 

ด้านความสัมพันธ์และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า ระหว่างเวียดนามและไทย    มีการพัฒนาที่น่าพอใจ ผลประกอบการค้าระหว่างเวียดนามและไทย เพิ่มขึ้นเสมอ ถึงแม้จะมีผลกระทบด้านวิกฤติกาลเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก

 

ที่ผ่านมานักลงทุนไทยได้เข้าไปลงทุนที่ประเทศเวียดนามอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลายปีที่ผ่านมาประเทศเวียดนามได้มีมาตรการด้าน ด้านกฎหมาย  ด้านเสถียรภาพการเมือง และระบบคมนาคมในประเทศ  เพื่อให้ต่างประเทศที่มาลงทุนในเวียดนามเกิดความพึงพอใจในการเป็นคู่ค้าทางเศรษฐกิจ และมีโอกาสขยายทางการลงทุนมากขึ้น

 

ฯพณฯ เหงวียน ทัญ เบียน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีเทคโนโลยีพัฒนา ผลผลิตทางการเกษตรที่ดี หากเวียดนามได้เรียนรู้เทคโนโลยีจากประเทศไทย จะทำให้ทั้งสองประเทศ ไทย-เวียดนาม ได้ขึ้นเป็นคู่ประเทศที่ผลิตผลทางการเกษตรชั้นนำของโลกในอนาคต

ดีเดย์ 1 ต.ค. ใช้บัตรประชาชน รักษาโรคฟรี


นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยข้อมูล โครงการ "รักษาฟรี 48 ล้านคน แค่ใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว" ซึ่งจะเริ่มดำเนินการพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 1 ตุลาคม 2553 นี้

 

โครงการ "รักษาฟรี 48 ล้านคน แค่ใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว"  เป็นโครงการที่เปลี่ยนรูปแบบการเข้ารับบริการในสถานพยาบาล  จากเดิมประชาชนต้องใช้บัตรทองรับสิทธิ์รักษาโรค  แต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปจะเริ่มใช้บัตรประชาชนแทนบัตรทอง  โดยบัตรประชาชนเพียงใบเดียวสามารถเข้ารับบริการที่สถานพยาบาล  ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกระดับ  ที่เข้าร่วมโครงการทั่วประเทศ

 

ข้อดีของการใช้บัตรประชาชนแทนบัตรทอง  คือ ประชาชนจะได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ

 

ส่วนผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งยังไม่มีบัตรประชาชน ให้ใช้สำเนาสูติบัตรหรือสำเนาทะเบียนบ้าน ในการเข้ารักษาตามสถานพยาบาล

จับกุมคดีลักทรัพย์ มาตรวัดน้ำประปาและสายไฟฟ้า


มาตรวัดน้ำประปา  สายไฟฟ้าและลวดทองแดงจำนวนมาก  เป็นของกลางที่ตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น  ตรวจยึดจากผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ ผู้ต้องหาคือ  นายทองพูล แสนศิริ อายุ 30 ปี ชาวจ.กาฬสินธุ์ นายทวีศักดิ์ กัณญาบัญพิตย์ อายุ 32 ปี ชาว อ.กระนวน จ.ขอนแก่น

 

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีคนร้าย ก่อเหตุลักทรัพย์สายไฟฟ้า ที่บริเวณบ้านโนนชัย ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น จึงเร่งรัดสืบสวนตามสถานที่และแหล่งชุมชนต่างๆ ที่คาดว่าคนร้ายจะนำทรัพย์สินที่ได้ไปขายหรือซุกซ่อนไว้ กระทั่งพบผู้ต้องสงสัย สอบถามเบื้องต้นทั้งสองให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันก่อนเหตุลักทรัพย์สายไฟฟ้าจริง จึงได้นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน

           

ส่วนอีกคดี เป็นคดีลักทรัพย์ มาตรวัดน้ำประปา ผู้ต้องหาชื่อนายสาคร บุราณก้านตง อายุ 28 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด มีพฤติกรรมขับขี่รถจักรยานยนต์ตะเวนลักทรัพย์ในพื้นที่ตำบลศิลา สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน และสร้างความเสียหายการประปาส่วนภูมิภาค  ต่อมาสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

         

นอกจากนี้ยังมีคดีปล้นทรัพย์ โดยผู้ต้องเป็นเยาวชน มีพฤติกรรมออกตระเวนลักทรัพย์ในพื้นที่ ต.เมืองเก่า ในเวลากลางคืน ล่าสุดดักปล้นรถจักรยานยนและทำร้ายเจ้าของทรัพย์ ตำรวจจับผู้ต้องหาได้ 1 ราย ที่เหลืออยู่ระหว่างติดตามจับกุม

         

พ.ต.อ.สุจินต์ นิจพานิชย์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น  เตือนให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตามิจฉาชีพที่ออกอาระวาดลักทรัพย์ในเขตพื้นที่ชุมชนต่างๆ ถ้าจบเหตุบุคคลต้องสงสัยสามารถแจ้งเหตุมาได้ที่ สภ.เมืองขอนแก่นได้ตลอดเวลา


29 กันยายน 2553

ปลูกต้นไม้ 840,000 ต้น ถวายพ่อของแผ่นดิน

นายพีระพล  พัฒนพีระเดช  นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น พร้อมด้วย คณะผู้บริหารเทศบาล    คณะสมาชิกสภาเทศบาล   พนักงานเทศบาล   ครูและนักเรียนโรงเรียนเทศบาลต่างๆ  11 โรงเรียน  และประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ร่วมกันปลูกต้นไม้  บริเวณพื้นที่ว่างเกาะกลางด้านทิศเหนือบึงทุ่งสร้าง  ตามโครงการปลูกต้นไม้ 840,000 ต้น  ถวายพ่อของแผ่นดิน    เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  มีพระชนมายุครบ 84 พรรษา  

 

เทศบาลนครขอนแก่นได้กำหนดนโยบายในการพัฒนาเมือง  โดยเน้นเรื่องการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  เพื่อพัฒนาและเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีของชุมชนเมืองให้น่าอยู่อย่างยั่งยืน  ซึ่งเป็นการพัฒนาเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวของเมือง  ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองขอนแก่น  และทำให้พื้นที่ว่างเปล่าเป็นพื้นที่ป่านานาพันธุ์    การนำระบบนิเวศน์กลับมาสู่บึงทุ่งสร้าง  เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์นานาชนิด     ประชาชนสามารถใช้พื้นที่ร่มรื่นนี้  เป็นแหล่งพักหย่อนใจ    ทำกิจกรรมร่วมกันได้ในอนาคต  และมอบเป็นสมบัติให้กับเยาวชน  คนรุ่นหลังได้ใช้ประโยชน์เป็นสถานที่ศึกษาหาความรู้เรื่องพันธุ์ไม้ต่อไปในอนาคต

 

“มข.เติมหัวใจให้สังคม”


งานกิจกรรมนักศึกษา กองกิจการนักศึกษา และองค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกันจัดกิจกรรม "มหาวิทยาลัยขอนแก่นเติมหัวใจให้สังคม" ที่ลานกิจกรรมหน้าหอพักหญิงที่ 3 มหาวิทยาลัยขอนแก่น  เพื่อส่งเสริมให้นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น มีจิตสำนึกสาธารณะและเสริมสร้างลักษณะที่ดีอันพึงประสงค์ของบัณฑิตเพื่อสังคม

 

โดยมีชมรมนักศึกษา สโมสรทุกคณะ คณะกรรมการหอพักต่างๆ เข้าร่วมกิจกรรม จัดถนนคนเดิน คนดี  และแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ จากการออกพัฒนาสังคม ในเวทีเสวนา

 

การจัดกิจกรรมครั้งนี้จะสะท้อนสังคมว่า เยาวชนทุกคนสามารถพัฒนาชุมชนที่ตนอาศัยอยู่ได้ ทั้งนี้เยาวชนจะต้องมีความกล้าแสดงออก มีจิตอาสา และมีความเสียสละ ซึ่งหากเยาวชนหลายคนรวมกลุ่มพัฒนาสังคม จะทำให้เกิดสิ่งดีๆในชุมชน  และจะเกิดการขยายผลไปยังชุมชน  ให้คนในชุมชนเกิดจิตอาสาอยากพัฒนาบ้านเมือง


การร่างแผนยุทธศาสตร์จัดการสวัสดิการสังคม


คณะอนุกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมจังหวัดขอนแก่น   ประชุมร่างแผนยุทธศาสตร์กองทุนส่งเสริมการจัดการสวัสดิการสังคม พ..2554-2556  ที่ห้องโกเมนทร์  โรงแรมบุษราคัม  จังหวัดขอนแก่น เพื่อเป็นทุนค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม พ..2546   

 

โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือ บุคคลหรือกลุ่มที่อยู่ในสภาวะยากลำบากหรือจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือ เช่น เด็ก เยาวชน คนชรา ผู้พิการ 

 

การจัดร่างแผนยุทธศาสตร์กองทุนส่งเสริมการจัดการสวัสดิการสังคม ในพ..2554-2556  เน้นการพัฒนาแบบยั่งยืน และเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยเป็นโครงการที่พัฒนาสังคมตลอดทั้งปี  และจะสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในปี 2554 ที่มุ่งเน้น การจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ เน้นชุมชนทั่วประเทศเป็นหลัก

 

ทั้งนี้การจัดร่างแผนยุทธศาสตร์ครั้งนี้ยังไม่เป็นที่สิ้นสุด จะต้องประเมินสภาพปัญหาสังคมหลายด้าน  ซึ่งคาดว่าจะร่างเสร็จปลายปี 2553


กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ปีนี้ มีผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้า 13 ราย และเตือนหลังถูกสุนัขแมวกัดต้องรีบไปล้างแผล ฉีดวัคซีน

เมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา  เป็นวันที่องค์กรเพื่อการรณรงค์ควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า องค์การอนามัยโลกและองค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ   กำหนดให้เป็นวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก   เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตื่นตัว ช่วยกันป้องกัน และควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า    ข้อมูลน่าสนใจ จากกระทรวงสาธารณะสุข  เปิดเผยว่า  ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนกันยายน มีคนไทยเสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้า 13 ราย   เป็นชาย 10 ราย   หญิง 3 ราย   อายุระหว่าง 3 ปี  ถึง  67 ปี   ถูกสุนัขกัด 12 ราย อีก 1 ราย   ถูกแมวกัด   ส่วนใหญ่หลังถูกกัดไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกัน   หรือฉีดเพียงเข็มเดียว   จากการสอบสวนประวัติก่อนเสียชีวิต พบถูกกัดตั้งแต่ 1 เดือน จนถึง 1 ปี สุนัขที่กัด 9 ราย   มีเจ้าของ   แต่ไม่เคยฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้ามาก่อน    ที่เหลือเป็นสุนัขจรจัด   3 ราย  แมวจรจัด 1 ราย   

 

โดยปีนี้มีคนไทยถูกสุนัข และแมวกัดทั้งหมด   446,255   พบว่า  เด็กอายุ 1-10 ปี    เป็นกลุ่มที่ถูกสุนัขกัดมากที่สุด   ในช่วงปิดเทอมผู้ปกครองที่พาลูกหลานไปเที่ยว   ขอให้หลีกเลี่ยงไม่ให้สุนัขกัดและให้กำชับเด็กหากถูกสุนัขกัด ให้รีบบอกผู้ปกครอง หรือครูทันที    ซึ่งขณะนี้ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าปีละกว่า 55,000 ราย    หรือร้อยละ 95    เกิดขึ้นในประเทศแถบเอเชีย และแอฟริกา

 

โรคพิษสุนัขบ้า ป้องกันได้ 2 วิธี   คือ   ฉีดป้องกันในสัตว์เลี้ยง   เช่น   สุนัข แมว ต้องฉีดทุกปี   และฉีดป้องกันในคนหลังถูกกัดด้วย   ถึงแม้จะมีบาดแผลเพียงเล็กใหญ่   หรือแค่รอยถลอก   รอยเล็บสัตว์ขีดข่วนก็ตาม   จากการประเมินพบคนไทยยังมีความตื่นตัวเรื่องนี้น้อย   มีการฉีดวัคซีนป้องกันในสัตว์เลี้ยงต่ำกว่าร้อยละ 80   โดยองค์การอนามัยโลก  กำหนดควรครอบคลุมมากกว่าร้อยละ 80 จึงสามารถป้องกันการแพร่ระบาดโรคในสัตว์ได้สำเร็จ    ดังนั้น จึงขอความร่วมมือคนเลี้ยงสุนัข แมว ให้พาสัตว์ทุกตัวไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าทุกปี   

 

สำหรับโรคพิษสุนัขบ้า    เป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คนที่มีอันตรายร้ายแรง หากปล่อยทิ้งไว้จนมีอาการป่วย    จะเสียชีวิตทุกราย   ไม่มียารักษา   สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิดสามารถเป็นโรคนี้ได้    แต่ในประเทศไทยส่วนใหญ่สุนัขจะเป็นตัวนำโรคมาสู่คน    เชื้อโรคจะอยู่ในน้ำลายของสุนัขที่เป็นโรค    เชื้อโรคพิษสุนัขบ้าจะเข้าสู่ร่างกายคนทางบาดแผล   หรือถูกเลียที่ปาก   จมูก   ตา   เชื้อจะเข้าทางปลายประสาทและขึ้นสมอง    ทำให้สมองหรือไขสันหลังอักเสบ   โดยทั่วไปจะปรากฏอาการหลังได้รับเชื้อตั้งแต่ 7 วัน   ถึงหลายปี    แต่ส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง 1 ถึง  6 เดือน   สัตว์ที่ป่วยเป็นโรคพิษสุนัขบ้ามีทั้งชนิดเซื่องซึม   และอาการดุร้าย    ชนิดดุร้ายสังเกตได้ง่าย ๆ   คือ   สัตว์มีนิสัยเปลี่ยนไปจากปกติ    กระวนกระวาย ตื่นเต้น   ไล่กัดคน    หรือสัตว์อื่นที่ขวางหน้า  กลืนอาหารและน้ำไม่ได้    หางตก น้ำลายไหล   ส่วนใหญ่จะเสียชีวิตหลังมีอาการไม่เกิน  10  วัน   หากเห็นสุนัข

มีอาการดังกล่าว   ต้องรีบช่วยกันกำจัดทันที เพื่อไม่ให้ไปกัดคนหรือสัตว์อื่น

28 กันยายน 2553

แถลงข่าว งานขอนแก่นรวมใจต้านภัยมะเร็งเต้านม

การแถลงข่าว การจัดงานขอนแก่นรวมใจต้านภัยมะเร็งเต้านม  ครั้งที่ 1 ประจำปี 2553    จัดขึ้นห้องอัพทาวน์  โรงแรมโฮเต็ล ขอนแก่น 

โดยกำหนดจัดงานวันที่ 1 ตุลาคม นี้  เวลา 16.00 น.  บริเวณศาลหลักเมืองขอนแก่น  เพื่อให้ความรู้แก่ผู้หญิง และรวมพลังรณรงค์ให้ผู้หญิ'ตระหนักถึงการป้องกันตนเองให้ห่างไกลจากมะเร็งเต้านม  ซึ่งเดือนตุลาคมของทุกปี  ทั่วโลกกำหนดให้เป็นเดือนแห่งการรณรงค์ป้องกันและกระตุ้นให้สตรีทั่วทุกมุมโลก  ตระหนักถึงภัยจากมะเร็งเต้านม  

 

ในการนี้   ได้รับเกียรติจาก นายมารุต  อ้วนไตร  รองนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น  เป็นประธานในพิธี     พร้อมทั้งเปิดตัวทูตต้านภัยมะเร็งเต้านม 2553  นางชุติมา  พลอยโสภณ  รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่น  , นางวรินทร์พร  ณิชาภัทร์นารากุล   ประธานโครงการรู้เท่าทันมัจจุราชสีชมพู  และนางนิษฐ์ชลีย์   วุทธิสิทธิ์   ซึ่งทั้ง 3 ท่าน เป็นผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านม และสามารถดำเนินชีวิตอยู่ได้อย่างปกติสุข

 

นางวรินทร์พร  ณิชาภัทร์นารากุล   หรือคุณอ้อม  กับฉายาหญิงเหล็ก   ประธานโครงการรู้เท่าทันมัจจุราชสีชมพู  เล่าว่า   งานขอนแก่นรวมใจต้านภัยมะเร็งเต้านม  ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่ทุกคนจะร่วมรณรงค์ป้องกันและลดอัตราปริมาณผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านม   ซึ่งเป็นความตั้งใจของผู้ป่วยที่มีจิตอาสาร่วมกัน  เพื่อเรียกความสดใสของผู้หญิงที่ต้องเผชิญกับโรคร้ายนี้  ให้กลับคืนมาและสามารถดำเนินชีวิตต่อไปอย่างมีกำลังใจและมีความสุข

 

ในงานขอนแก่นรวมใจต้านภัยมะเร็งเต้านม ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้   มีกิจกรรมน่าสนใจ  อาทิ    การตรวจสุขภาพเต้านมเบื้องต้นและปรึกษาปัญหาสุขภาพ  การเย็บเต้านมเทียม  ผ้าคลุมผมเพื่อมอบแก่ผู้ป่วยมะเร็งเต้านม  , ร่วมบริจาคและอุดหนุนเสื้อยืด  เข็มกลัดสัญลักษณ์  และร่วมเขียนข้อความเพื่อให้กำลังใจผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านม  รวมถึงการเสวนาสุขภาพ   หัวข้อ  การดูแลตนเองก่อนป่วย     และไฮไลท์ของงาน นั่นคือ การร่วมกันเปิดไฟสีชมพู  เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้ผู้หญิงที่เห็นแสงสีชมพูเรืองรองนี้  จะได้นึกถึงการป้องกันตนเองให้ห่างไกลจากโรคมะเร็งเต้านม  

 

สถาบันมะเร็งแห่งชาติ  เปิดเผยว่า  สถานการณ์โรคมะเร็งเต้านมในปัจจุบัน ขณะนี้ผู้หญิงไทยป่วยเป็นมะเร็งเต้านมสูงเป็นอันดับ 1  แซงหน้ามะเร็งปากมดลูก  และจากข้อมูลขององค์กรวิจัยมะเร็งนานาชาติ คาดการณ์ว่าในปี 2553 ประเทศไทยจะมีผู้ป่วยมะเร็งเต้านมจำนวน 13,184  คน และมีผู้เสียชีวิตประมาณ 4,665 ราย หรือ 12 รายต่อวัน

8 คนสุดท้าย เข้ารอบโครงการตามหายอดนักฟุตบอลทั่วโลกเพื่อเข้าเป็นส่วนหนึ่งของไนกี้ อะคาเดมี่

8 คนสุดท้าย   ที่ผ่านการคัดเลือกจากทั่วประเทศ ในโครงการตามหายอดนักฟุตบอลทั่วโลกเพื่อเข้าเป็นส่วนหนึ่งของไนกี้  อะคาเดมี่ 

โครงการฝึกเข้มซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยพรีเมียร์ลีกอังกฤษ   เพื่อไปคัดเลือกต่อที่กรุงเทพมหานคร   ให้เหลือเพียงสุดยอดนักเตะ

เยาวชนไทยเพียง 1 คนที่จะได้เดินทางไปทดสอบฝีเท้ากับนักฟุตบอลอีก 100 คนจากทั่วโลก  ต่อหน้าอาร์แซน  เวนเกอร์  

ผู้จัดการทีมของอาร์เซนอล  ที่ประเทศอังกฤษ  ได้แก่

 

1.       นายธวัชชัย  กำเนิดเขว้า  จากกรุงเทพมหานคร

2.       นายมงคล  วรพรม   จากจังหวัดขอนแก่น

3.       นายณัฐพงษ์  มีมณี  จากจังหวัดลพบุรี

4.       นายสุชาติ  ภูสีฤทธิ์    จากจังหวัดขอนแก่น

5.       นายจีระพงษ์  ฝ่ายเพชร  จากจังหวัดขอนแก่น

6.       นายธีรพงษ์  บัวบาน  จากกรุงเทพมหานคร

7.       นายวราวุธ  พันตาเอก  จากจังหวัดกาฬสินธุ์

8.       นายเอกชัย  หลงเอ  จากจังหวัดตรัง

 

การคัดเลือกเยาวชนไทยกว่า 50 คนที่เข้าร่วมโครงการตามหายอดนักฟุตบอลทั่วโลกเพื่อเข้าเป็นส่วนหนึ่งของไนกี้  อะคาเดมี่   เพื่อคัดให้เหลือเพียง 8 คนนี้  นายสุธี  สุขสมกิจ นักเตะทีมชาติไทย และเป็นตัวแทนโครงการในครั้งนี้  บอกกับทีมข่าวโฮมทีวีว่า  จังหวัดขอนแก่น เป็นจังหวัดที่มีเยาวชนที่มีความสามารถด้านกีฬาฟุตบอลเป็นอย่างมาก  และน้องๆ ที่เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้  มีแววที่จะเป็นนักเตะดาวรุ่งในอนาคตหลายคน

 

สืบเนื่องจาก  เมื่อวันที่ 27 กันยายน  ที่ผ่านมา บริษัท ไนกี้  ประเทศไทย จำกัด เฟ้นหาเยาวชนไทยที่มีความสามารถด้านกีฬาฟุตบอล  จากทุกภูมิภาคในประเทศไทย  โครงการตามหายอดนักฟุตบอลทั่วโลกเพื่อเข้าเป็นส่วนหนึ่งของไนกี้  อะคาเดมี่  โครงการฝึกเข้มที่ได้รับการสนับสนุนโดยพรีเมียร์ลีกอังกฤษ   เพื่อเป็นตัวแทนหนึ่งเดียวของประเทศไทย  ไปทดสอบฝีเท้ารอบสุดท้ายร่วมกับนักฟุตบอลดาวรุ่ง 100 คน ตัวแทนจาก 40 ประเทศทั่วโลกที่ประเทศอังกฤษ    โดยมีเยาวชนไทยเข้าร่วมทดสอบฝีเท้า  กว่า 50 คน  จนสามารถได้ผู้ที่ผ่านคัดเลือกทั้งหมด   8 คน   และไปคัดเลือกต่อที่กรุงเทพมหานคร  เพื่อให้เหลือเพียง 1 คนเท่านั้น  ที่จะเป็นตัวแทนประเทศไทย    ไปเป็นนักฟุตบอลฝึกหัดของโครงการตามหายอดนักฟุตบอลทั่วโลกเพื่อเข้าเป็นส่วนหนึ่งของไนกี้  อะคาเดมี่  ที่ประเทศอังกฤษ  เป็นระยะเวลา 1 ปี